หาเงิน ค่าเทอม ส่งลูกเรียนต่างประเทศ ต้องมีเงินเท่าไหร่

ส่งลูก 1 คนเรียนถึงปริญญาตรี หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่ถึงจะพอ?

กรกฎาคม 3, 2024

941

“การศึกษา” เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต คือการสร้างรากฐานให้คนคนหนึ่งสามารถนำไปต่อยอดในชีวิตได้ ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ก็คงอยากให้ลูกเรียนสูงตามที่วาดฝันเอาไว้ เพราะอย่างน้อยที่สุดตอนที่จากไป แม้จะไม่มีสมบัติอะไรทิ้งไว้ให้ก็ยังมีแต่การศึกษาที่ติดตัวลูกไว้ แต่ว่ามีลูก 1 คนจะต้องมี หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่ แล้วถ้าอยู่ๆ หมุนเงินไม่ทัน หาเงินจ่ายค่าเทอมไม่ทัน จะกู้เงินทุนการศึกษาที่ไหนดี บทความมีคำตอบ!

หาเงิน ค่าเทอม โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนรัฐ 2567

อยากส่งลูกให้เรียนจนปริญญาตรี ต้อง หาเงิน ค่าเทอม ไว้เท่าไหร่?

การจะเป็นพ่อหรือแม่คนจะต้องเตรียมความพร้อมในหลายด้านมาก นอกจากจะต้องมีเวลาให้ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่พ่อแม่แล้ว และการปรับทัศนคติในการเป็นพ่อแม่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เงิน” 

เพราะเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต่อยอดให้การเลี้ยงลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างการศึกษานั่นเอง เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า อยากส่งลูก 1 คนให้เรียนจบปริญญาตรี คนเป็นพ่อแม่จะต้องหาเงินค่าเทอมไว้เท่าไหร่บ้าง 

ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเคยประเมินสรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเด็ก 1 คนว่าตั้งแต่เรียนอนุบาลไปจนถึงปริญญาตรีคิดเป็นเงินเท่าไหร่ด้วยนะครับ คือ

  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาล มหาวิทยาลัยรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณคือ 1.6 ล้านบาท
  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัยเอกชนมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณคือ 4.0 ล้านบาท
  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ ส่งลูกเรียนต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 20.1 ล้านบาท

เรื่องนี้ก็อยู่ที่ว่าพ่อกับแม่จะส่งลูกเรียนในโรงเรียนประเภทไหนครับ เพราะในเมืองไทยมีประเภทโรงเรียนให้เลือกมากมาย ซึ่งค่าเทอมก็จะแปรผันไปกับประเภทของโรงเรียนนั่นเอง ดังนั้นก็ต้องวางแผนให้ดีว่าตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และมหาวิทยาลัย จะให้ลูกเรียนแบบไหน โดยอธิบายพอสังเขปได้ ดังนี้

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนรัฐบาล ต้อง หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 16,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 24,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 36,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 164,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 240,000 บาท

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนเอกชน ต้อง หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 488,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 486,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 600,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 800,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 2,374,000 บาท

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนนานาชาติ ต้องหาเงินค่าเทอมเท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 1,400,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 1,860,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 3,600,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 4,000,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 10,860,000 บาท

และนี่คือค่าเทอมที่พ่อแม่ต้องเตรียมก่อนส่งลูกเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรีครับ แต่ CarTrust ต้องบอกก่อนว่า เงินค่าเทอมไม่ได้เป็นไปตามที่ยกตัวอย่างมานี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเช่น ค่าชุด ค่าหนังสือ ค่ากิจกรรม หรือค่าอื่นๆ เข้าไปนะครับ และค่าเทอมจะมากขึ้นหรือน้อยลงก็อยู่ที่ว่าแต่ละโรงเรียนกำหนดเงินค่าเทอมเอาไว้เท่าไหร่นั่นเอง ดังนั้น สิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมให้ดีคือวางแผนหาเงินค่าเทอมเอาไว้ให้ลูกให้พร้อมจะได้ไม่ต้องเป็นปัญหาตามหลังว่าอยากส่งลูกเรียนแต่ไม่มีเงินค่าเทอมนั่นเอง แน่นอนว่าถ้าระหว่างนี้ก็สามารถ กู้เงินด่วนไม่มีสลิป มาใช้ก่อนได้

ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หาเงิน ค่าเทอม เงินทุนการศึกษา กู้สินเชื่อเพื่อการเรียนที่ไหนดี

กู้เงินทุนการศึกษาจากไหนดี มาจ่ายเงินค่าเทอมให้ลูกไปเรียนต่อ

ต้องบอกก่อนว่าเงินค่าเทอมที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น ไม่ได้หมายความว่า คนเป็นพ่อแม่จะต้องส่งลูกเรียนเอกชนตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญา เพราะเรื่องประเภทโรงเรียนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพอใจของลูกเอง

รวมไปถึงแต่ละโรงเรียนก็มีการแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนด้วย  ดังนั้น การหาเงินค่าเทอมของพ่อแม่เลยแปรผันไปตามเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีเงินค่าเทอม จะทำยังไงดี? 

จริงๆ ก็ไม่ยากเลยครับ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มี “บ้าน” ก็สามารถนำบ้านมาแลกเป็นเงินได้ ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านกับ CarTrust ต่อให้บ้านยังผ่อนอยู่ก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าถามว่าข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร CarTrust ก็จะยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพด้วยกัน 4 ข้อ ดังนี้

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ยบ้าน เพราะถ้าผ่อนบ้านไปสักระยะหนึ่งจะพบว่าดอกเบี้ยบ้านอยู่เท่าเดิมในปีที่ 3% แต่ในปีถัดไปก็จะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น การรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้ดอกเบี้ยลดลง แต่ทั้งนี้จะลดเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
  • การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดระยะเวลาผ่อนบ้าน สมมติว่าปกติตอนทำเรื่องกู้ซื้อบ้านเลือกระยะเวลาผ่อนเป็น 30 ปี แต่เมื่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านก็จะปรับให้ผ่อนบ้านเหลือ 25 ปี ทำให้หนี้บ้านหมดเร็ว
  • การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดยอดผ่อนต่อเดือน เป็นวิธีที่จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินไม่ติดขัด สมมติว่าต้องผ่อนต่อเดือนที่ 18,000 บาท แต่เมื่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านยอดผ่อนจะลดลง เพราะว่าตอนทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านคุณได้จ่ายหนี้บ้านไปบางส่วนแล้ว ยอดบ้านเลยลดลง เมื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารก็จะนำยอดล่าสุดมาคิดคำนวณใหม่นั่นเอง
  • การรีไฟแนนซ์บ้านมีวงเงินส่วนต่าง สมมติว่ากู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท พอผ่อนบ้านไปได้สักระยะหนึ่ง แล้วทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร ราคาประเมินบ้านจะสูงกว่ายอดที่ขอรีไฟแนนซ์บ้าน เลยทำให้คุณมีเงินส่วนต่างนั่นเอง ซึ่งเงินก้อนนั้นคือเงินอเนกประสงค์จะไปใช้ทำอะไรก็ได้ เช่น เงินทุนการศึกษาให้ลูก ค่ารักษาพยาบาล หรือ ลงทุนทำธุรกิจ เป็นต้น

สรุป

ทั้งหมดนี้คือจำนวนเงินที่คนเป็นพ่อแม่ต้องเตรียมหาเงินค่าเทอมเอาไว้ส่งลูกเรียนตั้งแต่อนุบาลไปจนปริญญาตรี จะเห็นได้ว่าโรงเรียนแต่ละประเภทก็ใช้เงินต่างกัน ก็อยู่ที่ว่าพ่อแม่อยากจะให้ลูกเรียนโรงเรียนอะไรหรือแบบไหน แต่ที่สำคัญคือต้องวางแผนการหาเงินค่าเทอมเอาไว้ให้ดี ในอนาคตจะได้ไม่ต้องเงินช็อตหรือเงินไม่พอใช้ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดหาเงินไปจ่ายค่าเทอมไม่ได้ หรือลูกอยากลงคอร์สเรียน อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะหาเงินจากไหน ก็สามารถ รีไฟแนนซ์บ้าน กับ CarTrust ได้เลยนะครับ เพราะทำให้คุณได้เงินส่วนต่างไปใช้จ่ายเรื่องเงินค่าเทอมหรือเป็นเงินทุนการศึกษาให้ลูกได้เรียนต่อตามที่ตั้งไว้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติ, finnomena