ถ้า เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาจะมายึดเงินเราไหม นะ?

เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาจะยึดเงินเราไหม น่าจะเป็นความกังวลใจที่คนถือบัตรเครดิตต้องเครียด เนื่องจากว่าช่วงนี้เงินไม่พอใช้ หมุนเงินไม่ทัน รายได้ลดลงจากเดิมเยอะมากๆ ทำให้จากที่เคยจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้กลายเป็นศูนย์ในทุกเดือน ต้องมา จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ในทุกๆ เดือน เรียกได้ว่าตกอยู่ในสถานะคนเป็นหนี้บัตรเครดิตอย่างเต็มรูปแบบ เลยกังวลว่าถ้าค้างจ่ายค่าบัตรเครดิตไว้ ธนาคารจะยึดเงินในบัญชีเงินเดือนไปใช้หนี้บัตรเครดิตได้หรือเปล่า เพื่อให้ทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเเดียวกัน มาดูกันครับว่า ธนาคารสามารถหักหนี้บัตรเครดิตด้วยการหักเงินในบัญชีได้จริงๆ ไหม! ถ้าทำได้เขาเรียกว่าวิธีอะไรกัน พร้อมแล้วก็มาอ่านกันเลย

เป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารหักเงินในบัญชีได้ไหม?

เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาจะยึดเงินเราไหม อายัดบัญชีเงินเดือนได้เลยหรือเปล่า

ถือเป็นคำถามเกี่ยวกับการเป็นหนี้บัตรเครดิตที่ถูกตั้งข้อสงสัยมากๆ คำถามหนึ่งเลยนะครับ ซึ่งจริงๆ แล้วธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้คุณสามารถดึงเงินจากบัญชีเงินเดือนไปได้เลย วิธีนี้เรียกว่า “หักลบกลบหนี้”

 การหักลบกลบหนี้คืออะไร

การหักลบกลบหนี้ คือการระงับหนี้ที่คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายต่างเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน โดยทั้งคู่ต่างก็เป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ของกันและกัน สามารถหักหนี้ได้เลยโดยไม่ต้องชำระหนี้กันไปมาให้เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งการหักลบกลบหนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่ถูกบัญญัติเอาไว้ใน กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341 มาตรา 348

  • ต้องมีหนี้ซึ่งกันและกัน หมายถึง เจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องเป็นคนเดียวกัน และต่างฝ่ายต่างเป็นหนี้ต่อกัน 
  • หนี้ทั้ง 2 รายต้องเป็นหนี้ที่เหมือนกัน เช่น ต่างฝ่ายต่างเป็นหนี้เงินซึ่งกันและกัน
  • หนี้ทั้ง 2 รายต้องกำหนดชำระแล้ว คือ หนี้ของทั้ง 2 ฝ่ายต้องถึงเวลาจ่ายหนี้ที่ระบุไว้ในสัญญา 

หากหนี้ของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปตามบัญญัติข้างต้น ก็สามารถหักลบกลบหนี้ได้เลยครับ

เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวอะไรกับการหักลบกลบหนี้?

ถ้าบัตรเครดิตที่ค้างจ่ายกับบัญชีที่เงินเดือนเข้าคือธนาคารเดียวกัน ทางธนาคารสามารถใช้วิธีหักลบกลบหนี้ด้วยการหักเงินในบัญชีเงินเดือนมาใช้หนี้บัตรเครดิตได้เลย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามบัญญัติกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341 ถึง 348 นะครับ เพราะถือว่าทั้งคู่ต่างเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน หนี้ประเภทเดียวกัน 

  • คุณฝากเงินให้ธนาคาร ธนาคารนำเงินไปใช้ตามเงื่อนไขต่างๆ =  ธนาคารเป็นหนี้คุณ
  • คุณใช้บัตรเครดิตด้วยการนำเงินจากธนาคารมาใช้ = คุณเป็นหนี้ธนาคาร 

แต่ในกรณีที่บัตรเครดิตที่เป็นหนี้กับบัญชีเงินเดือนคนละธนาคารกัน ธนาคารจะไม่สามารถหักลบกลบหนี้ได้ แต่คุณจะต้องถูก ส่งเรื่องฟ้องร้องก่อนจนกลายเป็นคดีความบัตรเครดิตซึ่งต้องไปสู้กันในชั้นศาลต่อไป

เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาจะยึดเงินเราไหม ธนาคารสามารถหักเงินในบัญชีเงินเดือนไปได้เลยเหรอ

ยึดได้ครับ เมื่อคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตธนาคารเดียวกับที่บัญชีเงินเดือนเข้า แล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ให้กับธนาคาร อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าเงินไม่พอใช้ เงินช็อต หรือหมุนเงินไม่ทัน รู้ไหมครับว่าธนาคารเขาไม่ได้หักเงินโดยพลการนะ แต่ตอนที่สมัครบัตรเครดิตหรือเปิดบัญชีออมทรัพย์ คุณได้เซ็นยินยอมให้ธนาคารดำเนินการไปแล้ว

โดยมากในสัญญาเงินกู้หรือสัญญาเปิดบัญชีธนาคาร มักจะระบุข้อความเอาไว้ข้อหนึ่งว่า “ผู้ถือบัตรยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากเพื่อหักลบภาระหนี้ที่มี” ซึ่งก็หมายความว่า ธนาคารสามารถหักเงินจากบัญชีเงินเดือนมาใช้จ่ายหนี้บัตรเครดิตได้เลย แต่บางคนไม่รู้เรื่องนี้ เพราะไม่ได้อ่านสัญญาให้ละเอียด

ดังนั้น ที่ธนาคารต้องทำการหักลบกลบหนี้เนื่องจากไม่สามารถติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ได้แล้ว และการเป็นลดภาระหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายหนี้บัตรเครดิตนั่นเองครับ

เป็นหนี้บัตรเครดิต จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ 2567

3 พฤติกรรมที่ทำให้คุณกังวลเรื่อง เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาจะยึดเงินเราไหม

บัตรเครดิตก็เหมือนเงินฉุกเฉินในอนาคตที่ยืมมาใช้ก่อนแล้วค่อยจ่ายคืนทีหลัง ถือเป็นเครื่องมือบริหารสภาพคล่องทางการเงินที่ดีวิธีหนึ่ง แต่หลายคนใช้บัตรเครดิตแบบผิดๆ เลยทำให้สุดท้ายกลายเป็นหนี้บัตรเครดิต แน่นอนว่าถ้าค้างหนี้บัตรเครดิตไว้นานเข้า อาจกลายเป็นหนี้เสีย เพราะ ติดเครดิตบูโร ดังนั้น มาดูกันดีกว่าครับว่าพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่จะทำให้คุณกลายเป็นหนี้บัตรเครดิต จะได้เลิกกังวลว่าจะมีใครมายึดเงินหรือเปล่า

เป็นหนี้บัตรเครดิตเพราะจ่ายไม่ตรงเวลา

บิลเรียกเก็บบัตรเครดิตจะระบุวันครบกำหนดชำระเอาไว้แล้ว หน้าที่ของคุณคือจ่ายบัตรเครดิตให้ตรงเวลา แต่ถ้าจ่ายไม่ตรงเวลาจะต้องเสียค่าปรับกับดอกเบี้ยนะครับ เลยทำให้คุณกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง

เป็นหนี้บัตรเครดิตเพราะจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ

หลายคนเข้าใจว่าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำคือสิทธิประโยชน์ที่ดี มีน้อยก็จ่ายน้อย ไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวน เข้าใจผิดนะครับ เพราะการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำคือการผ่อนหนี้ยอดที่ต่ำสุดเพื่อป้องกันการถูกปิดบัตรเครดิต โดยในปี 2567 ถูกกำหนด จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ 8% ถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจะถูกคิดดอกเบี้ย 2 ก้อน คือ

  • ดอกเบี้ยเงินต้น ของวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระเงิน 1 วัน
  • ดอกเบี้ยค้างชำระ ของวันที่ชำระขั้นต่ำจนถึงวันสรุปยอดบัญชีถัดไป

แน่นอนว่า ถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยทั้ง 2 ก้อนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ดอกเบี้ยเหล่านี้จะทบต้นทบดอกยิ่งนานไป ยอดหนี้ของคุณก็จะยิ่งเพิ่มพูนมหาศาลจนกลายเป็นหนี้เรื้อรัง ดังนั้น การจ่ายขั้นต่ำนั้นช่วยน้อยมาก แทบจะไม่ส่งผลต่อยอดหนี้เงินต้นเลย ทำให้คุณใช้เวลานานมากในการปลดหนี้ เสี่ยงถูกปิดบัตร แล้วถ้าวันไหนเริ่มจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ไหว สุดท้ายจะกลายเป็นหนี้เสีย

เป็นหนี้บัตรเครดิตเพราะติดผ่อน 0%

การผ่อนสินค้า 0% ด้วยบัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นวิธีสุดฉลาดที่ทำให้คุณมีเงินสดหมุนเวียนโดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ หลายคนเห็นสิทธิประโยชน์ตรงนี้เลยเผลอใจซื้อสินค้า 0% หลายๆ อย่างในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะคิดว่ายังไงก็แบ่งจ่ายอยู่แล้ว จ่ายน้อยผ่อนสบาย แต่อย่าลืมนะครับว่า เมื่อนำยอดน้อยหลายยอดมารวมกันก็หนี้ก้อนใหญ่ ถ้าบริหารจัดการไม่ดีอาจภาระหนี้ก้อนโตที่ยากจะเคลียร์หนี้ให้หมดได้

พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้คุณต้องกลายเป็นหนี้บัตรเครดิต หากหาเงินมาจ่ายได้ทันเวลา จ่ายเงินเต็มจำนวนทุกครั้ง ยังไงก็ไม่มีทางโดนธนาคารหักลบกลบหนี้แน่นอนครับ แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่ง เริ่มจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว เริ่มจ่ายบัตรเครดิตล่าช้า เมื่อเจ้าหนี้โทรมาก็ควรที่จะรับสาย เพื่อขอเจรจาในการจ่ายหนี้ หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ เพราะถ้าคุณจงใจหนีหนี้ ไม่ยอมจ่ายหนี้ ในอนาคตก็มีโอกาสสูงที่จะถูกเข้าสู่กระบวนการถูกหักลบกลบหนี้จากธนาคารได้

สรุป

ถ้าหนี้บัตรเครดิตที่เป็นบัญชีเงินเดือนคือธนาคารเดียว ทางธนาคารสามารถหักลบกลบหนี้เพื่อนำมาใช้หนี้บัตรเครดิตได้ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในสัญญาการทำธุรกรรมทางการเงิน แน่นอนว่า ถ้าใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ จ่ายเงินอย่างมีวินัยก็จะไม่มีทางถูกหักลบกลบหนี้ แต่ทุกคนต่างก็มีภาระค่าใช้จ่ายที่มากน้อยต่างกัน ดังนั้น ถ้าเริ่มจ่ายบัตรเครดิตไม่ไหว แถมยังมีหนี้รถยนต์ที่ไม่อยาก ค้างค่างวดรถยนต์ มีความคิดจะปิดหนี้ให้หมด  ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต ปิดเล่มรถยนต์ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ คุณสามารถมาหา CarTrust ได้นะ เพราะเรา รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมปิดเล่มรถยนต์ แถมยังรับ ปิดภาระหนี้สิน อีกด้วย แน่นอนว่าเราสามารถช่วยให้คุณผ่อนจ่ายหนี้น้อยลง และหมุนเงินได้คล่องมือมากกว่าเดิม แถมยังได้เงินก้อนส่วนต่างไปใช้จ่าย เช่น ปิดหนี้บัตรเครดิต ค่ารักษาพยาบาล กู้เงินค่าเทอมลูก ติดต่อเรามาเลยครับ เราพร้อมให้บริการทุกคน!

ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารกสิกร

มีอยู่จริงไหม? รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เช็คบูโร ทั้งที่ ติดเครดิตบูโร

รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เช็คบูโร น่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนคิด เพราะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนกู้สินเชื่อบ้านที่ผ่อนไปสักพักก็อยาก รีไฟแนนซ์บ้าน เพราะอยาก ขอลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน แต่หลายคนก็กังวลว่าจะรีไฟแนนซ์บ้านไม่ผ่าน เพราะในช่วงที่ผ่านมาสภาพคล่องทางการเงินติดขัด ค้างค่างวดรถยนต์ ค้างค่าบัตรเครดิต ไม่ได้จ่ายจนกลายเป็นหนี้เสียติดเครดิตบูโร ดังนั้น เพื่อตอบคำถามคาใจว่า รีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คเครดิตบูโร ธนาคารให้กู้หรือเปล่า บทความนี้ CarTrust มีคำตอบมาให้แล้ว

รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เช็คบูโร เลย รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ผ่าน 2567

รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เช็คบูโร เพื่อลดดอกเบี้ย มีจริงไหม ต้องคุณสมบัติอะไรบ้าง

ทุกๆ สินเชื่อที่ปล่อยกู้จะเขียนคุณสมบัติผู้กู้กำกับเอาไว้เสมอ เพื่อเป็นข้อมูลในเบื้องต้นให้ประกอบการตัดสินใจว่าผู้กู้เหมาะกับสินเชื่อประเภทนั้นหรือเปล่า ถ้าเหมาะก็เตรียมเอกสารยื่นเรื่องได้เลย ถ้าไม่เหมาะสม ผู้กู้ก็จะได้หาวิธีกู้เงินด่วนเงินก้อนในสินเชื่อประเภทอื่นๆ ที่ตอบโจทย์มากกว่า ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย เป็นการกู้สินเชื่อก้อนใหม่ไปเปิดก้อนเก่า แน่นอนว่าธนาคารก็จะต้องรีเช็กประวัติของคุณเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่ง CarTrust ได้จำแนกออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้

อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องผ่อนบ้านมาแล้ว 3 ปี

สำหรับดอกเบี้ยบ้านใน 3 ปีแรกจะถูกคิดแบบคงที่ เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 จะคิดแบบดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งดอกเบี้ยบ้านสูงมาก และส่วนใหญ่แล้วในสัญญากู้ซื้อบ้านจะระบุเอาไว้ว่าสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้เมื่อผ่อนไปแล้ว 3 ปี (บางแห่งอาจเป็น 5 ซึ่งระยะเวลานี้ขึ้นอยู่กับสัญญาเงินกู้แต่ละฉบับ) แน่นอนว่า ถ้ารีไฟแนนซ์ก่อนระยะเวลาที่ระบุไว้ อาจจะมีค่าปรับ 1%-3% ของยอดเงินคงเหลือ (ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ทำไว้กับธนาคาร) ครับ

อยากรีไฟแนนซ์บ้านให้ผ่านต้องไม่เคยค้างชำระหนี้

การจ่ายหนี้ตรงเวลาและเต็มจำนวน จะทำให้ประวัติทางการเงินดี เมื่อธนาคารที่คุณไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านเช็กประวัติก็จะพบว่าคุณคือลูกหนี้ที่ดี โอกาสในการรีไฟแนนซ์บ้านก็จะผ่านง่ายขึ้น ผิดกับลูกหนี้บางคนที่ไม่จ่ายหนี้เลย จ่ายช้าไม่ตรงเวลาไม่เกิน 90 วัน อาจจะเพราะลืมจ่าย มีหลายบิลมากจนงง ก็ต้องรีบติดต่อธนาคารเพื่อเคลียร์หนี้ แล้วงวดถัดไปก็ต้องจ่ายให้ตรงเวลาครับ เพื่อไม่ให้ประวัติการเงินเสีย หากปล่อยให้กลับมาเป็นวัฏจักรเดิม ธนาคารที่ปล่อยกู้อาจมองว่าคุณกำลังติดปัญหาทางการเงินอยู่นะครับ

อยากรีไฟแนนซ์บ้านผ่านต้องไม่ติดเครดิตบูโร

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการทำเรื่องขอลดดอกเบี้ยด้วยการเปลี่ยนสินเชื่อก้อนเก่าของธนาคารเดิม เป็นสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารใหม่ ซึ่งการขอสินเชื่อจะต้องตรวจสอบประวัติผู้กู้ด้วย เช่น เช็กสเตทเม้นท์เงินเดือน เอกสารแสดงรายได้ รวมไปถึงเช็ก สถานะเครดิตบูโร ว่าติดเครดิตบูโรไหม แน่นอนว่า ถ้าจ่ายเงินล่าช้ามากกว่า 90 วัน ไม่ว่าจะเป็นค้างค่าบัตรเครดิต ค้างค่างวดรถยนต์ ฯลฯ แปลว่าคุณติดเครดิตบูโรแล้วครับ ธนาคารจะพิจารณาว่าคุณไม่มีความสามารถในกาชำระหนี้ เลยไม่อนุมัติการรีไฟแนนซ์บ้านนั่นเอง 

ดังนั้น CarTrust ขอสรุปตรงนี้ไว้เลยว่า รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เช็คบูโร ไม่มีจริง ถ้า ติดเครดิตบูโร ก็รีไฟแนนซ์บ้านไม่ผ่าน

รีไฟแนนซ์บ้าน รีเทนชั่นบ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน

ติดเครดิตบูโร แต่อยากขอลดดอกเบี้ยบ้าน จะทำวิธีไหนได้บ้าง

ถ้าคุณยังไม่ถอดใจเรื่องจะขอลดดอกเบี้ยบ้านถึงแม้ว่าจะเป็นคน ติดเครดิตบูโร อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าสู้ดอกเบี้ยบ้านในปีถัดไปไม่ไหว อยากขอลดดอกเบี้ยบ้าน เพราะมีใจอยากจะผ่อนบ้านต่อ จริงๆ ก็ยังมีวิธีขอส่วนลดดอกเบี้ยบ้านให้เลือกใช้ด้วยกัน 2 แบบนะครับ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมได้เลย ดังนี้

ขอลดดอกเบี้ยบ้านด้วยการรีเทนชั่นบ้านในฐานะลูกหนี้ชั้นดี

การรีเทนชั่นบ้านคือการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม ถึงแม้จะติดเครดิตบูโรอยู่ก็มีโอกาสขอรีเทนชั่นบ้านผ่านได้เหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ที่เกณฑ์การพิจารณาของแต่ละธนาคาร สมมติว่า คุณมี หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ อยู่แล้วจ่ายไม่เต็มจำนวนบ้าง จ่ายล่าช้าบ้าง แต่ในทางกลับกันที่คุณเป็นหนี้บ้าน มีวินัยในการจ่ายเงินมาโดยตลอดและจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง ถือเป็นลูกหนี้บ้านชั้นดี ธนาคารก็อาจนำประวัตินี้ไปพิจารณาอนุมัติให้ผ่านได้ครับ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร ต้องลองไปพูดคุยดูนะครับ!

ขอลดดอกเบี้ยบ้านด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่ต้องเคลียร์หนี้ก่อน

ถ้ายังมีความตั้งใจที่จะรีไฟแนนซ์บ้านจริงๆ เพราะอยากได้ดอกเบี้ยบ้านที่ถูกลง (รีเทนชั่นบ้านจะดอกเบี้ยแพงกว่ารีไฟแนนซ์บ้าน) ก็ถึงคราวที่คุณจะต้องทยอยเคลียร์หนี้แต่ละก้อนให้หมดก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ หรือหนี้สินเชื่ออื่นๆ ให้หมดก่อน จึงค่อยทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านได้นั่นเอง


อ่านถึงตรงนี้แล้วก็ลองสำรวจหนี้สินที่ตัวเองมีกันหน่อยครับว่าแต่ละเดือนจ่ายอยู่เท่าไหร่ จะจ่ายต่อไปไหวไหม ตรงเวลาหรือเปล่า เพราะถ้าเริ่มจ่ายไม่ไหวก็จะได้หาวิธีเพื่อผ่อนภาระหนี้ให้เบาลง เช่น รวมหนี้เป็นก้อนเดียว รีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่ม จะได้จ่ายก้อนเดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง และถ้ากำลังมองหา รีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย แล้วไม่รู้จะไปที่ไหน มาที่ CarTrust สิครับ เราพร้อมให้บริการทุกคน!

สรุป

ติดเครดิตบูโรไม่สามารถขอรีไฟแนนซ์บ้านได้ เพราะเป็นการกู้สินเชื่อก้อนใหม่ ธนาคารที่ปล่อยกู้ก็จะไปเช็กประวัติของผู้กู้ว่าเคยติดเครดิตบูโรไหม ซึ่งถ้าติดเครดิตบูโรอยู่ ธนาคารก็จะไม่อนุมัติ เพราะมองเห็นว่าผู้กู้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ถ้าอนุมัติให้ผ่านอาจเป็นการเพิ่มหนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก :  guru living 

จำนำรถยนต์โอนเล่ม VS จำนำรถยนต์ไม่โอนเล่ม ต่างกันยังไง?

เวลาตกอยู่ในสถานการณ์เงินไม่พอใช้ หลายคนก็เริ่มมองหาทรัพย์สินมีค่าเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินก้อน หนึ่งในนั้นคือ “รถยนต์” ที่มีมูลค่าสูง โดยสามารถนำมาปล่อยเช่าเพื่อให้ได้เงินรายเดือน หรือขายรถยนต์มือสอง ขายรถที่ยังผ่อนไม่หมด เพื่อให้ได้เงินก้อนในทีเดียว แต่รู้ไหมว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่ใช้รถยนต์กู้เงินก้อนได้ นั่นคือ “จำนำทะเบียนรถยนต์” แล้วการจำนำรถยนต์คืออะไร จำนำรถยนต์โอนเล่ม จำนำรถยนต์ไม่โอนเล่ม มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ดังนั้น เพื่อให้มีเงินสดทันใช้ในเวลาจำเป็น มาดูกันเลยว่าการจำนำรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทต่างกันตรงไหน?!

จำนำรถยนต์โอนเล่ม จำนำรถยนต์ไม่โอนเล่ม มีกี่แบบ อะไรบ้าง

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์คืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เป็นสินเชื่อสำหรับคนมีรถที่ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะ โดยใช้เล่มทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการจำนำทะเบียนรถ ซึ่งผู้กู้ต้องจ่ายเงินค่างวดให้ครบทุกเดือนตามที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้ เมื่อจ่ายครบแล้ว ผู้ปล่อยกู้ก็จะส่งเล่มทะเบียนรถยนต์คืนให้ และในปัจจุบันการจำนำทะเบียนเล่มรถยนต์มีให้คุณเลือกใช้บริการด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้

จำนำรถยนต์โอนเล่ม คืออะไร?

การจำนำทะเบียนรถยนต์แบบโอนเล่ม คือผู้กู้ต้องใช้เล่มทะเบียนรถยนต์ฉบับจริงมาโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อใช้เป็นหลักประกัน โดยต้องไปดำเนินเรื่องที่กรมการขนส่งทางบก สำหรับข้อสังเกตที่คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนตัดสินใจจำนำทะเบียนรถยนต์แบบโอนเล่ม คือ

  • ดอกเบี้ยจะถูกลง และได้วงเงินกู้สูง (บางแห่งสูงถึง 120%) เนื่องจากว่าคุณได้โอนเล่มทะเบียนรถยนต์ไว้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อไว้แล้ว
  • จะใช้เวลาในการดำเนินงาน 5-7 วันทำการ เพราะต้องไปทำเรื่องโอนเล่มที่กรมการขนส่งทางบก
  • จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ต่างๆ เช่น ค่าโอนชื่อรถยนต์ ค่าอากรแสตมป์ 
  • ทุกครั้งที่เสียค่างวดจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เนื่องจากเป็น สัญญาเช่าซื้อรถ
  • เมื่อจ่ายค่างวดครบแล้ว สถาบันการเงินจะคืนเล่มทะเบียนรถยนต์ให้

จำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม คืออะไร?

การจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม คือผู้กู้นำเล่มทะเบียนรถยนต์ฉบับจริงมาใช้กู้สินเชื่อกับสถาบันการเงิน ฝากเล่มทะเบียนเอาไว้เป็นหลักประกัน แต่ไม่ต้องโอนชื่อในเล่มทะเบียนเป็นของใคร สำหรับข้อสังเกตที่คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนตัดสินใจจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม คือ 

  • ดอกเบี้ยสินเชื่อสูงแต่ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เพราะไม่ได้มีการโอนชื่อเป็นหลักประกัน และจะคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หากปิดบัญชีก่อนกำหนดก็ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในส่วนที่เหลือ 
  • ถ้าเตรียมเอกสารครบก็ใช้เวลาในการดำเนินงานเพียง 3 วันทำการเท่านั้น
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม เพราะไม่ต้องโอนรถยนต์ ไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
  • ไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เนื่องจากเป็นสัญญาเงินกู้
  • เมื่อจ่ายค่างวดครบแล้ว สถาบันการเงินจะคืนเล่มทะเบียนรถยนต์ให้
จำนำรถยนต์โอนเล่ม จำนำรถยนต์ไม่โอนเล่ม 2567 เลือกแบบไหนดี

จำนำรถยนต์โอนเล่ม ไม่โอนเล่ม เลือกแบบไหนดีให้ตอบโจทย์

อ่านถึงตรงนี้ก็คงจะเริ่มสงสัยแล้วว่าจำนำรถยนต์แบบโอนเล่ม กับ จำนำรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม ควรเลือกแบบไหนถึงจะดีที่สุด เรื่องนี้ก็อยู่ที่ว่าคนที่กำลังจะกู้สินเชื่อมีความต้องการแบบไหน ซึ่งถ้าไม่รู้ว่าจะขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ยังไงให้ตอบโจทย์ CarTrust จะให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

 อยากได้วงเงินสินเชื่อในจำนวนที่สูงมาก ควรเลือก จำนำรถยนต์โอนเล่ม

ถ้าต้องการกู้เงินด่วนเงินก้อนในวงเงินที่สูงมาก อาจจะนำไปจ่ายค่าเทอมลูก ไปขยายธุรกิจ คุณก็เหมาะกับการจำนำทะเบียนรถยนต์แบบโอนเล่มมากกว่า เพราะวิธีนั้นจะใช้การโอนเล่มเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้สินเชื่อทำให้วงเงินสูงมากกว่าครับ

อยากได้เงินก้อนเร็วๆ ไม่ต้องรอนาน ควรเลือก จำนำรถยนต์ไม่โอนเล่ม

ถ้าต้องการกู้เงินด่วนในเวลาที่รวดเร็ว ได้เงินไว ไม่นอนนาน ด้วยเหตุผลที่ว่าขับรถชนเกิดอุบัติเหตุ แล้วไม่มีค่ารักษาพยาบาล การจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่มก็จะได้เงินไวกว่า ไม่ผ่านกรมการขนส่งทางบก

จำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่มทะเบียนที่ไหนดี?

หากตัดสินใจแล้วว่าจะจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม เพราะต้องการเงินก้อนไว มีเรื่องที่ต้องใช้จ่ายในเร็ววัน แล้วที่สำคัญก็พอใจกับดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก แต่ไม่รู้ว่าจำนำทะเบียนรถยนต์ที่ไหนดี ก็สามารถมาจำนำทะเบียนรถยนต์กับ CarTrust ได้นะครับ เรามีผลิตภัณฑ์นี้ให้บริการ 

โดยคุณสามารถประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นแบบคร่าวๆ ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ CarTrust เพียงแค่ข้อมูลของรถยนต์ที่คุณจะนำมายื่นขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม ก็จะปรากฎวงเงินสินเชื่อให้คุณได้พิจารณาพร้อมกับรายชื่อสถาบันการเงินมากกว่า 15 แห่งที่ CarTrust เป็นพันธมิตรอีกด้วย!

สรุป

CarTrust ไม่สามารถฟันธงได้ 100% นะครับว่าจำนำรถยนต์แบบไม่โอนเล่ม กับ จำนำรถยนต์แบบโอนเล่ม วิธีไหนดีกว่ากันที่สุด เรื่องนี้ต้องอยู่ที่คุณแล้วครับว่าสามารถรับเงื่อนไขได้แบบไหน แต่สิ่งที่ฟันธงได้ 100% แน่ๆ คือคุณสามารถมาจำนำทะเบียนรถยนต์แบบไม่โอนเล่มที่ CarTrust ได้เลย เพราะเรามีบริการ เปรียบเทียบสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ จากหลายสถาบันการเงิน เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ

ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ แต่ไม่ซื้อ ประกันรถยนต์ จะเป็นอะไรหรือเปล่า

ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นเรื่องดีครับ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่มักมาพร้อมกับความเสียหายทางร่างกายและทรัพย์สิน จะได้ใช้สิทธิ์คุ้มครองจากประกันรถยนต์ภาคบังคับได้เป็นอย่างดี เพราะอย่างนี้การมีประกันรถยนต์เลยจำเป็นมาก ซึ่งกฎหมายเองก็ได้กำหนดให้รถทุกคันมี พ.ร.บ.รถยนต์ (ประกันรถภาคบังคับ) แต่คำถามสุดคาใจก็คือในเมื่อมี พ.ร.บ.รถ แล้วยังจำเป็นจะต้องซื้อประกันรถชั้น 1 ประกันรถชั้น 2+ ประกันรถชั้น 3+  (ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ) ด้วยไหมนะ?

ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ อย่างเดียวได้ไหม ไม่ซื้อประกันรถสมัครใจได้หรือเปล่า?

จริงๆ เราไม่รู้เลยว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะรับความเสี่ยงได้มากหรือน้อยแค่ไหน เลยมีกฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี พ.ร.บ.รถยนต์ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นนี่แหละครับ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ซื้อถ้าถาม CarTrust ว่า ต่อ พ.ร.บ.รถอย่างเดียวได้ไหมนะ คำตอบคือ “ได้” แต่ก่อนจะปิดบทความนี้ไปเพราะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว อยากให้ดูความคุ้มครองของ พ.ร.บ.รถยนต์ก่อนว่าคุ้มครองอะไรบ้าง และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจคุ้มครองอะไรบ้าง เพื่อตัดสินใจให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง ดังนี้

ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง 2567

ท่องจำให้ขึ้นใจ พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้างนะ?

หลายคนน่าจะรู้แล้วว่า พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร แต่สำหรับมือใหม่หัดขับที่เพิ่งขับรถอาจจะยังไม่เข้าใจ เดี๋ยว CarTrust จะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ เอง พ.ร.บ.รถยนต์ คือประกันรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี เป็นความคุ้มครองเบื้องต้นที่จะช่วยคุ้มครองผู้ประสบภัยทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนโดยไม่สนว่าใครจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด แน่นอนว่า ถ้ารถคันไหนไม่มี พ.ร.บ.รถยนต์ จะถือว่ามีฐานความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับ 10,000 บาทเลยนะครับ โดย พ.ร.บ.รถยนต์ แบ่งความคุ้มครองออกเป็น 2 เงื่อนไข คือ

พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองความเสียหายเบื้องต้น โดยไม่พิสูจน์หลักฐาน

  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการบาดเจ็บ (จ่ายตามจริง) สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
  • การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร สูงสุดไม่เกิน 35,000 บาท

รวมจ่ายสูงสุด 65,000 บาทต่อคน

พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองความเสียหายหลังจากพิสูจน์แล้วว่าถูก

  • ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ หรือค่าเสียหายอื่นๆ สูงสุด 80,000 บาท
  • การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร สูงสุด 500,000 บาท
  • ชดเชยรายวันวันละ 200 บาทไม่เกิน 20 วัน (สำหรับผู้ป่วยนอก – OPD)

รวมจ่ายสูงสุด 504,000  บาทต่อคน

ต้องบอกก่อนว่า พ.ร.บ.รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองแค่ค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยเท่านั้น แต่ในการเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้งไม่ได้มีแค่ค่ารักษาพยาบาลนี่สิครับ ยังมีความเสียหายจากรถ ความเสียหายจากทรัพย์สินอื่นๆ อยู่เหมือนกัน แล้วแบบนี้จะต้องซื้อประกันรถยนต์อะไรอีกบ้าง ที่ได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุม

ประกันรถยนต์คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง 2567

ถ้ารถมีการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ไปแล้ว ไม่ทำประกันรถยนต์ได้ไหม?

ถึงแม้ว่าคุณจะทำการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ออนไลน์ไปแล้ว ก็ยังสนับสนุนให้รถทุกคันมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจติดเอาไว้นะครับ จากที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ว่าพ.ร.บ.รถยนต์ ให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยก็จริง แต่ความคุ้มครองก็มีช่องโหว่หลายจุดที่สามารถสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนได้เช่นกัน

สมมติว่าวันหนึ่งคุณเกิดขับรถชนท้ายคันอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจ อาจจะด้วยเพราะฝนตกถนนลื่นจนไม่สามารถเหยียบเบรครถยนต์ไม่อยู่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยในกรณีนี้คุณเป็นฝ่ายผิดเต็มๆ พ.ร.บ.รถยนต์ ก็จะให้ความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาล แล้วทรัพย์สินที่เสียหายจากอุบัติเหตุล่ะครับ ใครเป็นคนจ่าย?

หากคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ใช้สิทธิ์คุ้มครองได้เลย โดยขอเคลมค่าเสียหายได้ทั้งรถยนต์ของคุณและรถยนต์ของคู่กรณีอีกด้วยนะครับ เห็นไหมว่า การมี พ.ร.บ.รถยนต์ ยังไม่พอ ต้องซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจติดรถไว้ด้วยจะได้คุ้มครองอย่างครอบคลุม ซึ่งความคุ้มครองของประกันรถแต่ละชั้นจะแจกแจงได้ ดังนี้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 1 : ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะขับรถชนมีคู่กรณี ขับรถชนไม่มีคู่กรณี รถน้ำท่วม รถไฟไหม้ รถโดนขโมย รถกระจกแตก ก็ใช้สิทธิ์เคลมประกันได้
  • ประกันรถยนต์ชั้น 2+ : ให้ความคุ้มครองเหมือนกันประกันรถชั้น 1 เว้นแต่ว่า จะไม่คุ้มครองถ้า “ขับรถชนไม่มีคู่กรณี” สมมติว่าขับรถชนแบริเออร์ ขับรถชนฟุตบาท อดใช้สิทธิ์เคลมประกันรถ 
  • ประกันรถยนต์ชั้น 3+ : เมื่อเบี้ยประกันถูกสุดเลยคุ้มครองน้อยที่สุด คือคุ้มครองแค่รถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น แต่รถยนต์ของผู้เอาประกันเองต้องจ่ายค่าซ่อมเองทั้งหมด 

อ่านถึงตรงนี้พอจะเห็นภาพชัดขึ้นไหมครับว่า ทั้งพ.ร.บ.รถยนต์ (ประกันรถยนต์ภาคบังคับ) และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันรถชั้น 1, ประกันรถชั้น 2+ และประกันรถชั้น 3+) ต่างก็ให้ความคุ้มครองในด้านที่ต่างกัน ถ้าอยากได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสุดๆ ก็ต้องมีประกันรถทั้ง 2 ประเภทติดรถไว้แล้วครับ

สรุป

ถึงจะมี พ.ร.บ.รถยนต์ อยู่แล้วแต่ก็ควรให้ความสำคัญกับประกันรถยนต์ภาคสมัครใจครับ เพราะเราไม่มีทางรู้อนาคตได้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถชนร้ายแรงสักแค่ไหน การมีประกันรถยนต์เอาไว้ก็เลยอุ่นใจจริงๆ และถ้าใครไม่รู้จะ ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ออนไลน์ หรือ ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่ไหน CarTrust มีให้บริการนะครับ เชื่อเถอะครับว่าของอย่างนี้มีเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่มีนะ! 

ภาระหนี้เยอะ อยากซื้อบ้าน แต่ทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่านกันนะ?

อยากมีบ้านใกล้ที่ทำงาน แต่ทำไม กู้ซื้อบ้าน ไม่ผ่านสักทีนะ?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินสดก้อนโตไปซื้อบ้านในฝันได้ทันที เพราะยังไงก็ต้องทำเรื่องกู้ซื้อบ้านกับธนาคารที่ช่วยให้ผ่อนได้นานๆ อยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆ คนก็ตกรอบไป เพราะ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากว่าคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้ และเพื่อไม่ให้ความฝันที่อยากมีบ้านใกล้ที่ทำงานของคุณต้องพับเก็บลงไปดื้อๆ CarTrust จะมาดูครับว่าจะมี 3 เหตุผลอะไรบ้างนะ ที่ทำให้คุณกู้ซื้อบ้านไม่ผ่านกับเขาสักที!

ภาระหนี้เยอะ อยากซื้อบ้าน ใกล้ที่ทำงาน แต่ไม่ผ่าน เพราะรายได้ไม่แน่นอน

“รายได้ที่ไม่มั่นคง” เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากธนาคารมักจะนำรายได้ที่ชัดเจน หรือรายรับที่เข้าบัญชีสม่ำเสมอของผู้กู้สินเชื่อมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้กู้จะมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ในทุกเดือน ดังนั้น พนักงานประจำที่มีรายได้คงที่เลยมีโอกาสกู้ซื้อบ้านผ่านมากกว่า

เรื่องนี้เลยตกเป็นความลำบากของ “ฟรีแลนซ์หรืออาชีพอิสระ” หรืองานที่มีรายได้เป็นเงินสด มีสิทธิ์กู้ซื้อบ้านไม่ผ่านเช่นกัน แม้บางเดือนรายได้สูงลิ่วแต่บางเดือนก็มีสิทธิ์ที่รายได้ต่ำลง ธนาคารมองว่ามีรายได้ไม่คงที่ เลยทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ดังนั้น ทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้กู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น 

  • เตรียมเอกสารรายได้ให้ชัดเจนก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงาน เช่น อัปเดตเงินเข้าบัญชีเป็นประจำ หรือถ้าเป็นฟรีแลนซ์ก็เก็บเอกสารยืนยันรายได้ทุกฉบับไว้เป็นหลักฐานกู้ซื้อบ้าน
  • อย่าเพิ่งยื่นเอกสารกู้ซื้อบ้านถ้าเพิ่งย้ายงาน รอให้ผ่านโปรหรือผ่านไปสัก 6 เดือนก่อน เพราะธนาคารไม่มีทางรู้ว่าคุณจะผ่านโปรไหม ถ้าปล่อยกู้ไปก็อาจจะไม่มีเงินมาผ่อนค่าบ้าน

ภาระหนี้เยอะ อยากซื้อบ้าน ใกล้ที่ทำงาน แต่ไม่ผ่าน เพราะภาระเยอะเกิน 40% ของรายได้

ก่อนจะมายื่นสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน หลายคนคงมีหนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิตไว้ในมืออยู่แล้ว รู้ไหมครับว่า เราไม่ควรเป็นหนี้เกินกว่า 40% ของรายได้ เพราะถ้าเกินก็จะทำให้กู้สินเชื่ออื่นๆ สำหรับการวัดว่า หนี้ที่มีเกินกว่า 40% ของรายได้ ไหม คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ สามารถทำได้ด้วยตนด้วยนะครับ

วิธีนี้จะถูกเรียกว่า “ตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวม (Debt to Income Ratio : DTI)” ด้วยสูตร “รายได้ต่อเดือน x 40% = จำนวนหนี้สินที่สามารถผ่อนได้” 

  • สมมติว่ามีรายได้ต่อเดือน 31,000 บาท ดังนั้นเมื่อแทนตัวเลขไปในสูตรคุณจะสามารถหนี้สินที่มีได้ต่อเดือนจะเป็น 31,000 x 40% = 12,4000 บาท
  • มีหนี้รถยนต์ 11,000 บาทต่อเดือน และหนี้บัตรเครดิต 8,000 บาทต่อเดือน เมื่อนำหนี้ทั้ง 2 ก้อนมารวมกันจะได้เป็น 11,000 + 8,000 =  19,000 บาท
  • สรุปได้ว่าคุณสามารถมีหนี้ได้ไม่เกิน 40% ของรายได้ที่ 12,400 บาท แต่หนี้ที่ผ่อนอยู่ทุกเดือนคิดเป็นเงิน 19,000 บาท 

นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้กู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานไม่ผ่านนั่นเองครับ เพราะธนาคารจะมองว่า คุณอาจไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ทำให้สุดท้ายกลายเป็นหนี้เสีย หรือติดเครดิตบูโรนั่นเองครับ

กู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานไม่ผ่าน เพราะหนี้สินล้นมือจนติดเครดิตบูโร

การติดเครดิตบูโรหรือติดแบล็คลิสต์จะส่งผลทางการเงินเวลาที่จะขอสินเชื่อ แต่เมื่อจ่ายหนี้ไม่ไหว ค้างชำระหนี้เกินกว่าเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด (ส่วนมากคือ 90 วันหรือ 3 งวดขึ้นไป) ก็จะถูกธนาคารที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร ส่งประวัติการชำระเงินของคุณไปที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ไว้เป็นกองกลางในการพิจารณาสินเชื่อ

และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองติดเครดิตบูโรจริงไหม อยากรู้จริงๆ ว่าคะแนนเครดิตเป็นเท่าไหร่ จะได้พิจารณาก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงาน ก็สามารถเช็กเครดิตบูโร และคะแนนเครดิตออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ผ่านแอปเช็กเครดิตบูโรได้แบบรวดเร็วทันใจแล้วนะครับ รู้ผลไวภายใน 24 ชั่วโมงเลยด้วย

เมื่อผลออกมาว่ามีรายชื่อ ติดเครดิตบูโร อยู่จริงๆ ก็ไม่แปลกเลยที่ทำให้กู้สินเชื่อบ้านใกล้ที่ทำงานไม่ผ่านนั่นเอง สิ่งที่ต้องทำก็คือ ทยอยจ่ายหนี้ให้หมดก่อนนะครับ หลังจากจ่ายหนี้เพื่อเคลียร์เครดิตบูโรจนยอดเป็นศูนย์แล้ว ก็ต้องใช้เวลาอีก 3 ปี เพื่อประวัติเครดิตกลับมาดีอีกครั้งหนึ่ง ถึงจะกู้สินเชื่อบ้านได้ครับ

ภาระหนี้เยอะแต่อยากซื้อบ้าน จะปิดหนี้ให้ก่อนซื้อบ้านยังไงดี?

ถ้ามี หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ และก็มีแผนจะกู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงาน แต่รู้ตัวดีว่าตอนนี้มีหนี้สินล้นมือภาระเยอะมากๆ คงกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เรื่องนี้มีทางออกอยู่ก็คือหาวิธีปิดหนี้บัตรเครดิต หรือปิดหนี้รถยนต์ให้หมดไปก่อน ด้วยการใช้สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวเพื่อให้หนี้ที่มีเบาลง โดยมีด้วยกัน 3 วิธี คือ

  • มีหนี้รถยนต์กับหนี้บัตรเครดิตธนาคารเดียวกัน ขอสินเชื่อรวมหนี้กับธนาคารเดิม
  • หนี้รถยนต์กับหนี้บัตรเครดิตคนละธนาคาร โอนหนี้บัตรเครดิตไปรวมกับธนาคารเดียวกับหนี้รถ
  • หนี้รถยนต์กับหนี้บัตรเครดิตคนละธนาคาร โอนหนี้ทั้ง 2 ไปขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่

เพียงเท่านี้เมื่อทำการรวมหนี้เป็นก้อนเดียวแล้วก็เท่ากับว่าปิดภาระสินเชื่อต่างๆ เช่น ปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดเล่มรถยนต์ ให้จ่ายต่อเดือนน้อยลง ดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิม เป็นการปรับลดภาระหนี้ให้น้อยลง มีช่องว่างสำหรับขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านนั่นเอง และถ้าไม่รู้ว่าจะต้องไป ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ไหน CarTrust มีให้บริการนะครับ

สรุป

และนี่คือ 3 เหตุผลที่ทำให้กู้ซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานไม่ผ่านครับ  CarTrust เข้าใจดีว่า การย้ายบ้านมาใกล้ที่ทำงานจะช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินไปได้เยอะ เรียกได้ว่าสะดวกแบบสุดๆ แต่การจะมีบ้านใกล้ที่ทำงานตามที่ฝันไว้ได้ก็อย่าลืมสำรวจตัวเองนะครับว่าคุณเข้าข่ายในข้อไหน จะได้แก้ปัญหาแล้วกู้ซื้อบ้านได้ผ่านตามที่ใจหวัง แล้วถ้าอยากปรับลดภาระหนี้ให้น้อยลงอย่าลืมนึกถึง CarTrust นะครับ เรา รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อม ปิดเล่ม รถยนต์ นะครับ

อยาก รีโนเวทบ้าน แต่ไม่มีเงินก้อน กู้เงินต่อเติมบ้าน อะไรดีที่สุด?

กู้เงินต่อเติมบ้าน น่าจะเป็นความคิดของคนที่อยู่บ้านแสนรักไปได้สักพักหลายคนก็มีความคิดเริ่มอยากจะ “รีโนเวทบ้าน” เพราะบ้านเริ่มทรุดโทรม เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา และมีร่องรอยความเสียหายตามการใช้งาน แต่การจะรีโนวทบ้าน ราคาค่อนข้างสูงมาก ไหนจะค่าช่าง ค่าอุปกรณ์ หรือค่าอื่นๆ อีกเพียบ บทความนี้ CarTrust จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเรื่องราวของการรีโนเวทบ้านราคากี่บาท ใช้เงินเท่าไหร่ ต้องรู้กฎหมายอะไรไหม แล้วถ้าเงินรีโนวทบ้านไม่พอจะขอ สินเชื่อรีโนเวทบ้าน ต่อเติมบ้าน ด้วยอะไรดีกว่ากัน ถ้าพร้อมจะรีโนเวทบ้านแล้ว เชิญอ่านกันได้เลย

รีโนเวทบ้าน คืออะไร กฎหมายรีโนเวทบ้าน มีอะไรบ้าง

รีโนเวทบ้านคืออะไร กู้เงินต่อเติมบ้าน ใช้เงินเท่าไหร่ กฎหมายรีโนเวทบ้าน มีอะไรบ้าง

การรีโนเวทบ้าน (Renovate) คือการต่อเติม ตกแต่ง ปรับปรุงบ้านให้มีสภาพที่ดีกว่าเดิม ทำให้บ้านดูใหม่และทันสมัยมากขึ้น เพิ่มมูลค่าของทรัพย์สิน และทำให้บ้านเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น โดยมากแล้วจะเกิดขึ้นกันบ้านเก่าที่มีอายุมาก บ้านที่กำลังเสื่อมโทรมลงนั่นเอง แน่นอนว่าการรีโนเวทบ้านคือเรื่องที่น่าตื่นเต้นครับ เพราะหมายถึงคุณกำลังจะได้บ้านใหม่ แต่ก็มาพร้อมกับเรื่องค่าใช้จ่ายหรือปัญหาตามมาได้หากไม่ทำตามกฎระเบียบ ดังนั้น มาดูกันครับว่า จะรีโนเวทบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

กฎหมายต่อเติมบ้าน กฎหมายรีโนเวทบ้าน มีอะไรบ้างที่ต้องรู้?​

กฎหมายต่อเติมบ้าน หรือกฎหมายรีโนเเวทบ้านคือเรื่องจำเป็นที่คุณต้องรู้ เพื่อป้องกันอันตรายจากการดัดแปลงหรือเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างอาคาร โดยปรากฎอยู่ในกฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2528) ซึ่ง CarTrust ได้ทำการสรุปให้เข้าใจง่ายๆ มาด้วยกัน 5 ข้อ ดังนี้ 

  • การรีโนเวทบ้านโครงสร้างไม้ด้วยการใช้วัสดุ ขนาด จำนวน และชนิดเดียวกันกับของเดิมไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้าเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง และโครงสร้างเหล็กด้วยวัสดุเดิม ขนาด จำนวน และชนิดเดียวกันไม่ว่าจะเปลี่ยนที่เดิมหรือย้ายตำแหน่งใหม่ก็ต้องขออนุญาต
  • การรีโนเวทบ้านหรือการต่อเติมบ้าน คือการเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างบ้านเดิม ถ้าการเพิ่มหนักน้ำหนักหนักเกิน 10% ของน้ำหนักอาคาร เช่น เปลี่ยนจากผนังไม้เป็นผนังก่ออิฐ เปลี่ยนจากพื้นไม้เป็นพื้นคอนกรีต ต้องขออนุญาต
  • การรีโนเวทบ้านด้วยการลดพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งไม่เกิน 5 ตารางเมตร เช่น เจาะพื้นเดิมให้เป็นช่องโล่ง เพิ่มเฉลียงด้านล่าง และไม่ได้เพิ่มเสาหรือคาน ไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้าเกินต้องขออนุญาต
  • การรีโนเวทบ้านด้วยการขยายพื้นที่หลังคาไม่เกิน 5 ตารางเมตร เช่น เพิ่มกันสาด ไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้าเกินมากกว่านั้นต้องขออนุญาต
  • การรีโนเวทบ้านด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาบ้านที่มีพื้นที่ไม่เกิน 160 ตารางเมตร และมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ไม่ต้องขออนุญาต แต่ถ้าเกินต้องขออนุญาต

นอกจากนี้ การต่อเติมบ้านหรือรีโนเวทบ้านจะต้องไม่ขัดกับกฎหมายควบคุมอาคารและกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ด้วยนะครับ  เช่น ตำแหน่งบ้านต้องห่างจากถนนเท่าไหร่ เป็นต้น

รีโนเวทบ้าน กู้เงินต่อเติมบ้าน ราคา กี่บาท ใช้เงินเท่าไหร่ จ้างสถาปนิก

รีโนเวทบ้าน ราคากี่บาท ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการต่อเติมให้เป็นหลังใหม่

การรีโนเวทบ้านใหม่จะมีค่าใช้จ่ายเยอะ ค่าใช้จ่ายบางอย่างสามารถประเมินได้ทั้งตัวเอง และไม่สามารถประเมินได้ด้วยตัวเองต้องผ่านช่างหรือสถาปนิกผู้เชียวชาญ สามารถแจกแจงได้ ดังนี้

 รีโนเวทบ้านจ้างสถาปนิกออกแบบบ้านราคาเท่าไหร่?

เรื่องนี้กฎหมายกำกับเรื่องรีโนเวททบ้านเอาไว้ด้วย และบุคคลที่จะสามารถกำหนดทิศทาางการรีโนเวทให้ถูกต้องคือสถาปนิกครับ เพราะนี่เป็นสิ่งที่คุณประเมินเองไม่ได้ เลยต้องจ้างสถาปนิกมาวางผังหรือโครงสร้างในพื้นที่ทที่ต้องการรีโนเวท ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่จะต้องมีคือ 

  • ค่าสำรวจหน้างานขั้นต่ำ 900 บาทขึ้นไป
  • ค่าออกแบบการรีโนเวทบ้านขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อตารางเมตร 

โดยค่าใช้จ่ายที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นใช้ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ครับ คือการคิดมูลค่าจากการรีโนเวทบ้านที่มีราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งจะมีค่าออกแบบ 10% และเงิน 10% จาก 5 ล้านบาทคิดเป็น 500,000 บาทเท่ากับว่าสามารถรีโนเวทบ้านาได้ถึง 100 ตารางเมตรตกตารางเมตรละ  5,000 บาทนั่นเอง

ทั้งนี้  ราคาที่ระบุเป็นราคาเริ่มต้นเท่านั้นแ และราคาจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น บริษัทสถาปนิกที่เลือกใช้ เป็นต้น

 รีโนเวทบ้านจ้างช่างรับเหมาราคาเท่าไหร่?

เมื่อว่าจ้างให้สถาปนิกออกแบบการรีโนเวทบ้านให้แล้ว ลำดับต่อไปก็ต้องมีช่างรับเหมาที่จะมาทำให้แปลนนั้นเป็นจริงครับ ซึ่งคุณก็ต้องทำแปลนทั้งหมดไปคุยรายละเอียดกับช่างว่าจะถูกตีราคาว่าจ้างเป็นเท่าไหร่ 

ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ช่างรับเหมาคิดมานั้นจะเป็นค่า “ค่าแรง” ยังไม่รวมค่าวัสดุที่ใช้ และโดยพื้นฐานแล้วราคาเหมาช่างรับเหมาจะอยู่ประมาณที่ 100,000 ขึ้นไป ดังนั้น อย่าลืมที่จะให้ช่างรับเหมาตีราคาออกมาให้ครบ อย่าคิดเป็นเลขกลมๆ เด็ดขาด ป้องกันงบรีโนเวทบ้านที่บานปลาย

นอกจากนี้ CarTrust แนะนำว่าเวลาจ่ายค่าว่าจ้างให้ทยอยจ่ายเป็นงวดๆ หรือขั้นตอนในการรีโนเวทดีกว่า ถ้าเกิดว่าช่างรับเหมาทำงานไม่ถูกใจ ล่าช้ากว่ากำหนดที่คุยไว้ จะได้เปลี่ยนใจไปใช้เจ้าอื่นได้ครับ

 รีโนเวทบ้านมีค่าวัสดุอุปกรณ์เท่าไหร่บ้าง?

นี่เป็นเหตุผลที่ช่างรับเหมาจะต้องตีราคาค่าอุปกรณ์ออกมาเป็นตัวเลขจริง ไม่ใช่ตัวเลขกลมๆ เพราะคุณจะได้จำกัดงบรีโนเวทบ้านไม่ให้บานปลาย ซึ่งค่าวัสดุอุปกรณ์ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้แบรนด์อะไร ชอบความทนทานแบบไหน ก็บอกช่างรับเหมาไปได้เลยเพื่อให้ได้สิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุด เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น CarTrust จะยกตัวอย่างค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ยังไงก็ต้องมีในลิสต์รายชื่อแน่ๆ ไม่ซื้อไม่ได้มาให้คุณได้รู้ในเบื้องต้น เช่น

  • ค่าสีทาบ้าน : การรีโนเวทบ้านต้องใช้สีทาบ้านเป็นจำนวนมาก เพราะนั่นคือการแปลงโฉมให้บ้านมีสภาพใหม่ขึ้น ราคาสีก็ขึ้นอยู่ที่คุณเลือกครับ ราคาต่อกระป๋องมีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป
  • ค่ากระเบื้อง : อีกหนึ่งค่าวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในจำนวนมาก ยิ่งพื้นที่รีโนเวทบ้านเยอะเท่าไหร่ก็ใช้มากเท่านั้นครับ ราคากระเบื้องโดยมากแล้วเริ่มต้นประมาณ 7,000 บาทขึ้นไป 

โดยค่าใช้จ่ายที่จะปรากฎดังต่อไปนี้เป็นการประเมินคร่าวๆ เท่านั้น ราคาจริงจะสูงหรือต่ำลงขึ้นอยู่กับว่าคุณไปใช้บริการที่ไหน โปรดตัวสอบราคาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการนะครับ

สินเชื่อต่อเติมบ้าน สินเชื่อรีโนเวทบ้าน กู้เงินซ่อมบ้าน กู้เงินต่อเติมบ้าน 2567

อยากรีโนเวทบ้าน แต่ไม่มีเงินก้อน จะ กู้เงินต่อเติมบ้าน ที่ไหนดีนะ?

สำหรับคนที่จะรีโนเวทบ้าน คงวางแผนการเงินมาแล้วว่าต้องมีเงินสำรองมากพอที่จะทำให้การรีโนเวทบ้านสวยออกมาถูกใจและพร้อมใช้งานทันที แต่เมื่อลองเขียนลิสต์ค่าใช้จ่ายมาแล้วกลับพบว่าเกินกว่างบที่ตั้งเอาไว้ไปสูงมาก จะให้ถอดใจตอนนี้ก็คงไม่ทันเพราะมีความจำเป็นต้องรีโนเวทบ้านจริงๆ จะกู้สินเชื่อต่อเติมบ้านที่ไหนดี กู้เงินต่อเติมบ้านกับธนาคารไหนดี ถ้ายังคิดไม่ออก CarTrust มี 1 สินเชื่อที่น่าสนใจมาแนะนำ

“รีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่ม” เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่เหมาะกับคนมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เพราะต้องใช้รถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจอดรถยนต์ไว้นะครับ คุณจะยังมีรถยนต์ใช้อยู่ ข้อดีก็คือการมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจะทำให้คุณได้เงินก้อนโตมากพอที่จะไปรีโนเวทบ้าน

เนื่องจากว่ารถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ก็เลยส่งผลให้วงเงินกู้สินเชื่อสูงตามไปด้วย แต่ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มยังไม่หมดแค่นั้นนะครับ อย่าคิดว่ากู้สินเชื่อก้อนใหม่มาปิดก้อนเก่าจะดีเหรอ จริงๆ แล้วการรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่ม จะช่วยลดรายจ่ายของคุณลงไปได้เยอะเลยด้วย เพราะว่า

  • ลดดอกเบี้ยรถยนต์ให้น้อยลงจากเดิม
  • ยืดระยะเวลาในการผ่อนค่างวดรถยนต์ให้นานขึ้น
  • ค่าผ่อนงวดรถต่อเดือนมีจำนวนน้อยลง
  • มีเงินส่วนต่างมาใช้จ่าย ในกรณีนี้ก็คือการรีโนเวทบ้าน

โดยคุณสามารถประเมินวงเงินเบื้องต้นที่จะได้รับเมื่อ รีไฟแนนซ์พร้อมปิดเล่มรถยนต์ กับ CarTrust ได้เลยที่เว็บไซต์ เพียงกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ให้ครบ ระบบก็จะประมวลแสดงผลให้คุณเห็นทันที เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้แล้วว่าได้วงเงินเท่าไหร่ แล้วเพียงพอกับการรีโนเวทบ้านที่กำลังจะทำหรือเปล่านั่นเอง!

สรุป

การรีโนเวทบ้านก็ทำเพื่อให้บ้านมีความแข็งแกร่งขึ้น สร้างความสะดวกสบายมากขึ้นให้แก่ผู้อาศัย ไม่ว่าคุณจะวางแผนรีโนเวทบ้านแบบมินิมอล รีโนเวทบ้านแบบประหยัด ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ไม่มากก็น้อยนะครับ และถ้าใครเงินรีโนเวทบ้านไม่พอ อยากขอสินเชื่อต่อเติมบ้าน ที่ได้ทั้งเงินก้อนไปใช้จ่าย แถมยังได้ลดดอกเบี้ยค่างวดรถยนต์ลงไปพร้อมๆ กัน อย่าลืมนึกถึงการ ปิดเล่มรถยนต์ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่งที่ Cartrust เรา รับรีไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมปิดเล่มรถยนต์ ด้วยนะครับ หรือ รีไฟแนนซ์บ้าน ติดต่อเข้ามาเลย เราพร้อมให้บริการทุกท่าน!

ขอบคุณข้อมูลจาก : บ้านและสวน

เป็นหนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต แล้ว ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม

ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นสิ่งที่ใครหลายคนคิดจะทำ เพราะอยู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันทางการเงินเกิดขึ้น คือรายรับลดลง แต่รายจ่ายยังคงอยู่เหมือนเดิม ทำให้การจ่ายหนี้ที่เคยสร้างไว้เริ่มจ่ายไม่ไหว แต่ก่อนจะตัดสินใจปรับโครงสร้างหนี้ อยากชวนคุณมารู้จักกันก่อนครับว่า ปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร ปรับโครงสร้างหนี้จะเสียประวัติไหม ติดบูโรกี่ปี มาหาคำตอบได้ในบทความนี้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ

ปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร ปรับโครงสร้างหนี้มีผลอะไรบ้าง

ปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร ปรับโครงสร้างหนี้มีผลอย่างไรบ้างนะ?

ปรับโครงสร้างหนี้ คือการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในสัญญาสินเชื่อ เลยต้องเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ให้เหมาะสมกับรายรับที่ลดลงหรือความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จะได้ไม่ต้องเป็นการผิดชำระหนี้แล้วกลายเป็นหนี้เสีย NPL เพราะถ้าลูกหนี้ผิดชำระหนี้ สิ่งที่จะตามมาคือ 

  • ถูกคิดดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระ
  • มีประวัติเสียที่สถาบันการเงินจะส่งเข้าเครดิตบูโร  หรือ ติดเครดิตบูโร
  • ถูกฟ้องร้องจนกลายเป็นคดีความ

ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มรู้ตัวแล้วว่าจะจ่ายหนี้ต่อไปไม่ไหว เพราะรายได้ลดลงไปจากเดิมแล้ว ให้รีบติดต่อเข้าไปที่สถาบันการเงินเพื่อทำเรื่องขอปรับโครงสร้างหนี้เลยนะครับ!

ปรับโครงสร้างหนี้แล้วจะเสียประวัติไหม?

อย่างที่บอกไปเลยครับว่าเมื่อทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิต ปรับโครงสร้างหนี้รถแล้ว สถาบันการเงินก็จะมองว่าคุณเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหวเลยมาขอปรับโครงสร้างหนี้ แน่นอนว่าจะต้องเสียประวัติดีที่เคยชำระหนี้มาก่อน ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกส่งไปบริษัทเครดิตบูโรที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเครดิตของผู้กู้สินเชื่อ เมื่อเวลาจะขอกู้สินเชื่ออะไรอาจจะไม่ผ่าน หรือผ่านยาก เพราะมีประวัติบันทึกไว้แล้วว่าความสามารถในการจ่ายหนี้ลดลง

ปรับโครงสร้างหนี้แล้วจะติดเครดิตบูโรกี่ปี

หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าถูกส่งประวัติไปที่ บริษัทเครดิตบูโร จะทำให้ในอนาคตกู้สินเชื่อไม่ผ่าน หรือ ติดแบล็กลิสต์ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลยนะครับ บริษัทเครดิตบูโรมีหน้าแค่หน้าที่จัดเก็บข้อมูลเครดิตของผู้กู้เท่านั้น โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรจะเป็นฝ่ายส่งข้อมูลหลังจากคุณทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้นั่นเอง ซึ่งหลังจากที่เคลียร์หนี้ที่ปรับโครงสร้างไปแล้ว คุณจะติดเครดิตบูโรไปอีก 3 ปีครับ

เคยปรับโครงสร้างหนี้แล้วขอปรับโครงสร้างหนี้ซ้ำได้ไหม

เรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกประกาศเอาไว้ว่า ถ้าคุณเคยทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเอาไว้แล้วก่อนที่จะกลายเป็นหนี้เสีย แต่ตอนนี้กลับจ่ายไม่ไหวแล้วกลายเป็นหนี้เสียก็ยังสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ไปทำเรื่องครับ

ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่ไหนดี 2567

เริ่มผ่อนหนี้รถไม่ไหว แต่ไม่อยากขอ ผ่อนผันปรับโครงสร้างหนี้ ทำยังไงได้บ้าง?

ถ้าคุณที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ ผ่อนรถต่อไม่ไหว หรือจ่ายไหวอยู่แต่ถ้าได้จ่ายให้น้อยลงกว่านี้คงเป็นเรื่องดีมากๆ  แต่รู้สึกว่าไม่อยากจะปรับโครงสร้างหนี้เลย ยังมีวิธีนั่นก็คือ “การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด”  วิธีนี้จะช่วยคุณลดภาระทางการเงินได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการกู้เงินก้อนใหม่มาปิดหนี้ก้อนเก่า

แต่การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดก็มีเงื่อนไขที่ต้องให้ความสำคัญคือ “รถยนต์คันนั้นต้องผ่อนมาแล้วครึ่งหนึ่ง หรือ 50%” โดยคำว่า 50% ไม่ได้หมายความว่าซื้อรถยนต์มาแล้ว 5 ปีแต่ผ่อนมาแล้ว 2.5 ปี แต่หมายถึงยอดผ่อนรถต้องเกิน 50% ของยอดหนี้นั่นเอง เลยส่งผลให้คุณได้รับข้อดี ดังนี้

  • ดอกเบี้ยรถยนต์ ถูกลง เพราะเมื่อคุณผ่อนรถมาเกิน 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด เงินก้อนใหม่ที่กู้มาก็จะถูกคิดเงินต้นล่าสุดที่คงเหลืออยู่นั่นเอง
  • ค่างวดในการผ่อนรถน้อยลง เพราะเงินต้นน้อยลงค่างวดรถในแต่ละเดือนก็จะน้อยลงตามไปด้วย
  • ระยะเวลาในการผ่อนรถนานขึ้น เลยช่วยให้การเงินไม่ตึงมืออีกต่อไป หมุนเงินคล่องขึ้นกว่าเดิม 
  • ได้รับเงินส่วนต่างที่เหลือมาหมุนเวียน อาจเก็บไว้เป็นเงินฉุกเฉิน หรือนำไปต่อยอดทางการเงินได้

ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ผ่อนรถต่อไม่ไหว แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มที่ไหน สามารถมาดำเนินการได้ที่ CarTrust เลยนะครับ

สรุป

การปรับโครงสร้างหนี้คือสิ่งที่สถาบันการเงินมองว่าคุณมีปัญหาทางด้านการจ่ายหนี้ เลยต้องเปลี่ยนเงื่อนไขในการจ่ายหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถ แน่นอนว่าการปรับโครงสร้างหนี้จะถูกส่งประวัติข้อมูลเครดิตเข้าไปที่เครดิตบูโร เมื่อชำระหนี้หมดแล้วจะต้องติดเครดิตบูโรอีก 3 ปี หลังจากนั้นถึงจะสร้างประวัติทางการเงินได้ใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ถ้าคุณผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากปรับโครงสร้างหนี้ ก็สามารถ รีไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อม ปิดเล่มรถยนต์ หรือ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ กับ CarTrust ได้เลยครับ เรา รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ จะได้ไม่ต้องทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ให้เสียประวัติ!


ขอบคุณข้อมูลจาก  สมาคมธนาคารไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย

เบื่อรถคันเก่า! เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมด ขายรถติดไฟแนนซ์ ได้ไหม?

ขายรถติดไฟแนนซ์ น่าจะเป็นสิ่งที่คนที่เพิ่งซื้อรถยนต์แล้วใช้ไปสักระยะหนึ่งแต่ยังผ่อนรถไม่หมด เริ่มคิดว่าอยากเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ อาจเพราะครอบครัวใหญ่ขึ้นที่นั่งไม่พอ รถคันใหญ่ไปขับในเมืองไม่สะดวก หรืออยากได้รถยนต์ประหยัดน้ำมันหรือรถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ก็เกิดความสงสัยว่า ขายรถติดไฟแนนซ์ผิดกฎหมายไหม ถ้าเทิร์นรถยังผ่อนไม่หมด เทิร์นรถติดไฟแนนซ์ต้องรู้อะไรบ้าง มีกี่วิธีที่จะขายรถติดไฟแนนซ์ได้ หาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้!

 ซื้อ ขายรถติดไฟแนนซ์ ผิดกฎหมายไหม ค่าปรับเท่าไหร่)

รถติดไฟแนนซ์คืออะไร ขายรถติดไฟแนนซ์ผิดกฎหมายไหมนะ?

ทุกคนรู้กันไหมครับว่า การกู้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถคันนั้นที่นำมาขับอยู่ทุกวันคุณยังไม่ได้เป็นเจ้าของ 100% นะ ต่อให้จ่ายค่างวดรถพร้อมเสีย ดอกเบี้ยรถยนต์ อยู่ทุกเดือนก็ตาม รถคันนี้จะยังอยู่ในสถานะ “รถติดไฟแนนซ์” เพราะกรรมสิทธิ์ทั้งหมดยังเป็นของสถาบันการเงินที่ปล่อย คนผ่อนรถเป็นได้เพียงแค่ผู้ครอบครอง 

แต่ถ้าหาเงินก้อนมาปิดหนี้รถยนต์จนหมด หรือผ่อนรถยนต์จนครบงวดแล้ว จะถือว่าเป็นรถยนต์ปลอดภาระและคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ ซึ่งถ้าคุณยังผ่อนรถอยู่แต่อยากได้รถคันใหม่ ขายรถติดไฟแนนซ์ เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมดเพื่อไปซื้อรถประหยัดน้ำมันหรือรถ EV ก็จำเป็นต้องแจ้งกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ก่อน ดังนั้น ขายรถติดไฟแนนซ์ผิดกฎหมายไหม คำตอบคือผิดนะครับ ผิดทั้งคนขายและคนซื้อเลยด้วย!

เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมด ขายรถติดไฟแนนซ์ ผิดกฎหมายข้อไหน

ถ้าคุณขายรถติดไฟแนนซ์แบบพลการจะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานยักยอกทรัพย์มาตรา 352 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ซื้อรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ซื้อรถติดไฟแนนซ์ ผิดกฎหมายข้อไหน

ถ้าคุณซื้อรถติดไฟแนนซ์จะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานรับของโจรมาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 

ดังนั้น ถ้าอยากจะขายรถติดไฟแนนซ์ เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมด เพราะอยากจะเปลี่ยนรถคันใหม่ ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมัน รถไฟฟ้า EV หรือไม่ว่าจะเหตุผลอะไร อย่าลืมแจ้งกับสถาบันการเงินด้วยนะครับ

เช็กลิสต์ 3 วิธีสำหรับ เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมด ขายรถติดไฟแนนซ์

นอกจากจะแจ้งกับสถาบันการเงินแล้วว่าคุณต้องการจะขายรถติดไฟแนนซ์ หรือเทิร์นรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด อย่าลืมสอบถามด้วยนะครับว่า ณ ปัจจุบันมีหนี้รถยนต์ค้างอยู่ที่เท่าไหร่ รวมไปถึงหาราคากลางหรือราคาตลาดของรถคันที่ติดไฟแนนซ์ด้วยว่ากี่บาท เพราะจะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาตัดสินใจว่าจะขายรถติดไฟแนนซ์วิธีไหนให้ตอบโจทย์ที่สุด ซึ่ง CarTrsut ขอแนะนำ 3 วิธีขายรถติดไฟแนนซ์ให้คุณเลือกใช้ ดังนี้

อยากเปลี่ยนรถใหม่ ต้องขายรถให้เต๊นท์ติดไฟแนนซ์

รถติดไฟแนนซ์ อยู่แต่อยากเปลี่ยนรถใหม่เลยขายรถให้โชว์รูมหรือเต๊นท์รถ วิธีนี้คือสะดวกมาก เพราะคุณสามารถเข้าไปสอบถามกับโชว์รูมหรือเต๊นท์รถเพื่อขายรถติดไฟแนนซ์ได้เลย โดยเต๊นท์รถจะเสนอราคารถตามสภาพรถยนต์และราคาตลาดในขณะนั้น ซึ่งข้อควรระวังของการขายรถติดไฟแนนซ์ให้เต๊นท์รถคือ 

  • ราคารถยนต์อาจถูกกดลงจากที่ตั้งเอาไว้ เพราะเต๊นท์รถจะนำรถติดไฟแนนซ์ที่ซื้อต่อจากคุณไปขายต่อให้กับคนอื่น เขาเป็นแค่คนกลาง ก็เลยต้องได้ราคารถติดไฟแนนซ์ที่ถูกที่สุด
  • ต้องให้ผู้รับซื้อจ่ายเงินส่วนต่าง ปิดหนี้รถยนต์ให้ก่อน แล้วค่อยส่งมอบรถ เพราะบางครั้งอาจเจอผู้รับซื้อไม่สุจริต ไม่ปิดหนี้รถยนต์ให้ หรือไม่ยอมซื้อขาด ทำให้คุณยังเป็นหนี้รถยนต์อยู่

ถึงแม้ว่าการขายรถติดไฟแนนซ์กับเต๊นท์รถยนต์จะเป็นวิธีที่สะดวกและได้เงินเร็ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยง ยังไงก็ลองตัดสินใจดีๆ ก่อนเทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมดด้วยนะครับ

อยากเปลี่ยนรถใหม่ ต้องขายรถติดไฟแนนซ์ ด้วยวิธีเปลี่ยนสัญญา ขาวดาวน์รถ

สำหรับใครที่เช็กกับสถาบันการเงินแล้วว่าหนี้รถยนต์เหลือมากกว่าราคาตลาดของรถติดไฟแนนซ์ การเทิร์นรถติดไฟแนนซ์ด้วยการเปลี่ยนสัญญาขายแล้วให้คนอื่นผ่อนต่อเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะคุณสามารถเรียกราคาเงินค่าส่วนต่างที่เหลือจากหนี้ที่ค้างจริงๆ ได้นะครับ สมมติว่า

  • รถติดไฟแนนซ์ของคุณถูกตั้งราคาตลาดอยู่ที่ 650,000 บาท 
  • หนี้รถติดไฟแนนซ์ของคุณมียอดค้างคงเหลือที่ 550,000 บาท

คุณสามารถเรียกเงินดาวน์จากผู้ที่จะมาซื้อรถติดไฟแนนซ์ต่อจากคุณได้อีก 100,000 บาทเลยนะครับ เมื่อตกลงราคากันได้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ชาย ก็สามารถไปทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ได้เลย

อยากเปลี่ยนรถใหม่ ต้องขายรถติดไฟแนนซ์ด้วยการขายเงินสด

จะขายรถติดไฟแนนซ์ได้ คุณต้องปิดหนี้รถยนต์ให้หมดก่อน แต่การปิดหนี้รถยนต์ต้องใช้เงินเยอะและใช่ว่าทุกคนจะมีเงินก้อนมาปิดหนี้รถ ดังนั้น วิธีขายรถติดไฟแนนซ์ด้วยการขายเงินสดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะทำให้คุณขายรถติดไฟแนนซ์ออก ได้เงินส่วนต่างจากการตกลงแล้ว ยังได้ส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินเนื่องจากปิดหนี้รถยนต์ก่อนกำหนดอีกด้วย แต่มีข้อเสียที่ต้องหาคนมีเงินก้อนพร้อมซื้อรถติดไฟแนนซ์ วิธีนี้เลยเหมาะกับคนอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ แต่ไม่ได้รีบร้อน และรอได้นะครับ

สรุป

อ่านถึงตรงนี้หวังว่าคุณจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายรถติดไฟแนนซ์ เทิร์นรถที่ยังผ่อนไม่หมดด้วยวิธีไหนดี เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไปตามความพอใจของผู้ขายนั่นเอง และถ้าอยาก ปิดหนี้รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ หรือ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ มาที่นี่เลย CarTrust เรา รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมปิดเล่มให้คุณ ไม่จำกัดวงเงิน ดำเนินการไว และดอกเบี้ยรถยนต์ถูกลงอีกด้วยนะครับ! ! 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน, สำนักงานกิจการยุติธรรม

ส่งลูก 1 คนเรียนถึงปริญญาตรี หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่ถึงจะพอ?

“การศึกษา” เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต คือการสร้างรากฐานให้คนคนหนึ่งสามารถนำไปต่อยอดในชีวิตได้ ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ก็คงอยากให้ลูกเรียนสูงตามที่วาดฝันเอาไว้ เพราะอย่างน้อยที่สุดตอนที่จากไป แม้จะไม่มีสมบัติอะไรทิ้งไว้ให้ก็ยังมีแต่การศึกษาที่ติดตัวลูกไว้ แต่ว่ามีลูก 1 คนจะต้องมี หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่ แล้วถ้าอยู่ๆ หมุนเงินไม่ทัน หาเงินจ่ายค่าเทอมไม่ทัน จะกู้เงินทุนการศึกษาที่ไหนดี บทความมีคำตอบ!

หาเงิน ค่าเทอม โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนรัฐ 2567

อยากส่งลูกให้เรียนจนปริญญาตรี ต้อง หาเงิน ค่าเทอม ไว้เท่าไหร่?

การจะเป็นพ่อหรือแม่คนจะต้องเตรียมความพร้อมในหลายด้านมาก นอกจากจะต้องมีเวลาให้ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่พ่อแม่แล้ว และการปรับทัศนคติในการเป็นพ่อแม่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เงิน” 

เพราะเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต่อยอดให้การเลี้ยงลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างการศึกษานั่นเอง เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า อยากส่งลูก 1 คนให้เรียนจบปริญญาตรี คนเป็นพ่อแม่จะต้องหาเงินค่าเทอมไว้เท่าไหร่บ้าง 

ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเคยประเมินสรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเด็ก 1 คนว่าตั้งแต่เรียนอนุบาลไปจนถึงปริญญาตรีคิดเป็นเงินเท่าไหร่ด้วยนะครับ คือ

  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาล มหาวิทยาลัยรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณคือ 1.6 ล้านบาท
  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัยเอกชนมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณคือ 4.0 ล้านบาท
  • ส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ ส่งลูกเรียนต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 20.1 ล้านบาท

เรื่องนี้ก็อยู่ที่ว่าพ่อกับแม่จะส่งลูกเรียนในโรงเรียนประเภทไหนครับ เพราะในเมืองไทยมีประเภทโรงเรียนให้เลือกมากมาย ซึ่งค่าเทอมก็จะแปรผันไปกับประเภทของโรงเรียนนั่นเอง ดังนั้นก็ต้องวางแผนให้ดีว่าตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และมหาวิทยาลัย จะให้ลูกเรียนแบบไหน โดยอธิบายพอสังเขปได้ ดังนี้

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนรัฐบาล ต้อง หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 16,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 24,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 36,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 164,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 240,000 บาท

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนเอกชน ต้อง หาเงิน ค่าเทอม เท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 488,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 486,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 600,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 800,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 2,374,000 บาท

ส่งลูกเรียนอนุบาล-ปริญญาตรี โรงเรียนนานาชาติ ต้องหาเงินค่าเทอมเท่าไหร่

  • ค่าเทอมอนุบาล 1-3 : 1,400,000 บาท
  • ค่าเทอมประถมศึกษา 1-6 : 1,860,000 บาท
  • ค่าเทอมมัธยมศึกษา 1-6 : 3,600,000 บาท
  • ค่าเทอมปริญญาตรี : 4,000,000 บาท

รวมเป็นเงินประมาณ 10,860,000 บาท

และนี่คือค่าเทอมที่พ่อแม่ต้องเตรียมก่อนส่งลูกเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรีครับ แต่ CarTrust ต้องบอกก่อนว่า เงินค่าเทอมไม่ได้เป็นไปตามที่ยกตัวอย่างมานี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเช่น ค่าชุด ค่าหนังสือ ค่ากิจกรรม หรือค่าอื่นๆ เข้าไปนะครับ และค่าเทอมจะมากขึ้นหรือน้อยลงก็อยู่ที่ว่าแต่ละโรงเรียนกำหนดเงินค่าเทอมเอาไว้เท่าไหร่นั่นเอง ดังนั้น สิ่งที่พ่อแม่ต้องเตรียมให้ดีคือวางแผนหาเงินค่าเทอมเอาไว้ให้ลูกให้พร้อมจะได้ไม่ต้องเป็นปัญหาตามหลังว่าอยากส่งลูกเรียนแต่ไม่มีเงินค่าเทอมนั่นเอง แน่นอนว่าถ้าระหว่างนี้ก็สามารถ กู้เงินด่วนไม่มีสลิป มาใช้ก่อนได้

ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หาเงิน ค่าเทอม เงินทุนการศึกษา กู้สินเชื่อเพื่อการเรียนที่ไหนดี

กู้เงินทุนการศึกษาจากไหนดี มาจ่ายเงินค่าเทอมให้ลูกไปเรียนต่อ

ต้องบอกก่อนว่าเงินค่าเทอมที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น ไม่ได้หมายความว่า คนเป็นพ่อแม่จะต้องส่งลูกเรียนเอกชนตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงปริญญา เพราะเรื่องประเภทโรงเรียนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพอใจของลูกเอง

รวมไปถึงแต่ละโรงเรียนก็มีการแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนด้วย  ดังนั้น การหาเงินค่าเทอมของพ่อแม่เลยแปรผันไปตามเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีเงินค่าเทอม จะทำยังไงดี? 

จริงๆ ก็ไม่ยากเลยครับ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มี “บ้าน” ก็สามารถนำบ้านมาแลกเป็นเงินได้ ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านกับ CarTrust ต่อให้บ้านยังผ่อนอยู่ก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าถามว่าข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร CarTrust ก็จะยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพด้วยกัน 4 ข้อ ดังนี้

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ยบ้าน เพราะถ้าผ่อนบ้านไปสักระยะหนึ่งจะพบว่าดอกเบี้ยบ้านอยู่เท่าเดิมในปีที่ 3% แต่ในปีถัดไปก็จะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น การรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้ดอกเบี้ยลดลง แต่ทั้งนี้จะลดเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
  • การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดระยะเวลาผ่อนบ้าน สมมติว่าปกติตอนทำเรื่องกู้ซื้อบ้านเลือกระยะเวลาผ่อนเป็น 30 ปี แต่เมื่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านก็จะปรับให้ผ่อนบ้านเหลือ 25 ปี ทำให้หนี้บ้านหมดเร็ว
  • การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดยอดผ่อนต่อเดือน เป็นวิธีที่จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินไม่ติดขัด สมมติว่าต้องผ่อนต่อเดือนที่ 18,000 บาท แต่เมื่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านยอดผ่อนจะลดลง เพราะว่าตอนทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านคุณได้จ่ายหนี้บ้านไปบางส่วนแล้ว ยอดบ้านเลยลดลง เมื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารก็จะนำยอดล่าสุดมาคิดคำนวณใหม่นั่นเอง
  • การรีไฟแนนซ์บ้านมีวงเงินส่วนต่าง สมมติว่ากู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท พอผ่อนบ้านไปได้สักระยะหนึ่ง แล้วทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร ราคาประเมินบ้านจะสูงกว่ายอดที่ขอรีไฟแนนซ์บ้าน เลยทำให้คุณมีเงินส่วนต่างนั่นเอง ซึ่งเงินก้อนนั้นคือเงินอเนกประสงค์จะไปใช้ทำอะไรก็ได้ เช่น เงินทุนการศึกษาให้ลูก ค่ารักษาพยาบาล หรือ ลงทุนทำธุรกิจ เป็นต้น

สรุป

ทั้งหมดนี้คือจำนวนเงินที่คนเป็นพ่อแม่ต้องเตรียมหาเงินค่าเทอมเอาไว้ส่งลูกเรียนตั้งแต่อนุบาลไปจนปริญญาตรี จะเห็นได้ว่าโรงเรียนแต่ละประเภทก็ใช้เงินต่างกัน ก็อยู่ที่ว่าพ่อแม่อยากจะให้ลูกเรียนโรงเรียนอะไรหรือแบบไหน แต่ที่สำคัญคือต้องวางแผนการหาเงินค่าเทอมเอาไว้ให้ดี ในอนาคตจะได้ไม่ต้องเงินช็อตหรือเงินไม่พอใช้ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดหาเงินไปจ่ายค่าเทอมไม่ได้ หรือลูกอยากลงคอร์สเรียน อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะหาเงินจากไหน ก็สามารถ รีไฟแนนซ์บ้าน กับ CarTrust ได้เลยนะครับ เพราะทำให้คุณได้เงินส่วนต่างไปใช้จ่ายเรื่องเงินค่าเทอมหรือเป็นเงินทุนการศึกษาให้ลูกได้เรียนต่อตามที่ตั้งไว้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติ, finnomena

เปิดตำรา! ฝันว่าเห็นรถ ฝันเกี่ยวกับรถแบบนี้ บอกอะไรได้บ้าง?

ฝันเห็นรถ น่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนล้วนเคยฝันถึงกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งความฝันของคนไทยในสมัยโบราณมีความเชื่อว่า ความฝันคือลางบอกเหตุ อะไรสักอย่าง และในยุคสมัยใหม่ต่างก็บอกว่าความฝันคือสิ่งที่คนคนนั้นกำลังกังวลใจ คิดเรื่องนั้นซ้ำๆ จนเก็บเอาไปฝันต่อ แต่ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ความฝันของคนไทยมักจะถูกนำมาเอามาทำนายฝันอยู่เสมอ แล้วคุณเคยฝันเห็นรถกันบ้างไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการ ฝันว่าเห็นรถ ฝันเห็นรถพัง ฝันว่ารถจมน้ำ ฝันว่ารถยางแตก หรือฝันเห็นรถในรูปแบบต่างๆ เคยสงสัยกันไหมว่ามันคืออะไรกันแน่?

เช็กเลย! ฝันเห็นรถ ฝันว่ารถหาย จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันนะ?

การทำนายฝันหรือการตีความหมายของความฝันสามารถเป็นได้ทั้งฝันดีและฝันร้าย ซึ่งการฝันเห็นรถ ในรูปแบบต่างๆ ก็มีคำทำนายฝันเรื่องรถที่ต่างกันออกไปครับ จริงอยู่ที่ว่าเรื่องความฝันมันก็แค่ความฝัน และเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น CarTrust เลยอยากให้คุณใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความนี้ด้วย อาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่หลายคนก็นำความฝันนี้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้มีสติมากขึ้น ซึ่งถ้า ฝันว่าเห็นรถ แบบนี้ จะตีความได้เป็นอะไรบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมคำตอบมาให้กันแล้วนะครับ!

ฝันเห็นรถว่าเป็นรถตัวเอง จอดอยู่เฉยๆ จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่าเป็นรถตัวเอง แต่จอดอยู่เฉยๆ ฝันเห็นบ่อยๆ ทำนายฝันได้ว่า ชีวิตคุณจะไม่หยุดอยู่กับที่ มีเรื่องต่างๆ กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต เช่น การงานไปได้สวย ได้เลื่อนขั้น ได้ปรับตำแหน่ง เพิ่มเงินเดือน มีรายได้เข้ามาหลายทาง อาจจะจาก ลงทุนทำธุรกิจ ซึ่ง ได้ว่าการเงินไม่ขัดสน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องแลกมากกับการทำงานที่หนักขึ้น

ฝันเห็นรถว่าเป็นรถคันเก่าของตัวเอง จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่าเป็นรถตัวเอง แต่เป็นรถคันเก่า ทำนายฝันได้ว่า ช่วงนี้จะได้ติดต่อกับคนเก่าๆ เพื่อนเก่าๆ ที่ขาดหายการติดต่อไปนานหลายปี ซึ่งการติดต่อครั้งนี้จะมาพร้อม กับลาภลอยแบบไม่คาดฝัน อาจจะเป็นการได้เงินรางวัลจากการเสี่ยงดวงเสี่ยงโชค เช่น ถูกหวยรางวัลที่ 1

ฝันเห็นรถ ตัวเอง ฝันเห็นรถคันเก่า ฝันว่ารถหาย ทำนายฝันรถ 2567

 ฝันเห็นรถว่ารถหาย จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถยนต์หาย ฝันว่ารถมอเตอร์ไซค์หาย ทำนายฝันไว้ว่าอาจจะต้องสูญเสียของรักไป มีเรื่องให้ต้องห่างกับครอบครัว แต่ก็แลกมากับหน้าที่การงานที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีเงินไหลเข้ากระเป๋าไม่ขาดสาย อาจจะได้เพิ่มเงินเดือน ได้เลื่อนขั้น หรือได้เงินโบนัสประจำปี

ฝันเห็นรถ ว่ารถพัง ฝันว่ารถเสีย จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถพัง ทำนายฝันได้ว่าคนในบ้านอาจจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ต้องดูแลคนในบ้านให้ดี ซึ่งแน่นอนว่าถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลก็จะมาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาล ค่าหมอ เป็นต้น ควรจะเตรียมเงินไว้จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ในมุมของคนที่ฝันเองก็จะได้ดีในหน้าที่การงาน แต่ก็ต้องผ่านด่านพิสูจน์ความสามารถหลายๆ ด้าน

ฝันเห็นรถ ว่ารถพัง ฝันว่ารถเสีย ฝันว่ารถชนกัน ฝันว่ารถชนกันหลายคัน

ฝันเห็นรถว่ารถชน ฝันว่ารถชนกันหลายคัน จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถชน ปกติคนไทยก็นำเอาเลขทะเบียนรถไปซื้อหวยกัน แต่ว่าในด้านของการทำนายฝันบอกว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน หรือการทำงานจะมีอุปสรรคมากขึ้นกว่าเดิม เวลาใครนำของอะไรมาให้อาจมีเจตนาแปลกๆ แฝงอยู่ แล้วที่สำคัญถ้าคิดจะลงทุนกับใครที่ไม่สนิทใจให้ระวังให้ดี

 ฝันเห็นรถ ว่ารถยางแตก ฝันว่ารถยางรั่ว จะทำนายฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถยางแตก ฝันว่ารถยางรั่ว ทำนายฝันได้ว่าสิ่งที่วางแผนเอาไว้ว่าจะทำให้ได้ เป็นสิ่งที่ตั้งใจมากจะยังไม่สำเร็จในทันที ต้องใช้ระยะเวลาสักระยะกว่าจะทำได้ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝัน หรือที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้จะมาแบบฟลุ๊คๆ แบบไม่ทันตั้งตัว รวมไปถึงจะมีโชคลาภเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องเงินเข้ามาอีกด้วย

ฝันเห็นว่ารถยางแตก ฝันว่ารถยางรั่ว ฝันว่ารถสตาร์ไม่ติด ฝันว่ารถดับ

ฝันเห็นรถว่าขับรถอยู่แต่รถเบรคไม่อยู่  จะทำนายฝันได้ว่ายังไง?

ฝันว่าขับรถอยู่แต่รถเบรคไม่อยู่ ฝันว่าสายรถเบรคขาด ทำนายฝันได้ว่า ทุกเรื่องที่จะเกิดในช่วงนี้มีแต่ความติดขัดไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ที่เข้ามาในชีวิตมีเรื่องให้หนักใจ การเงินไม่คล่องตัว การงานก็ติดขัด แต่ยังโชคดีที่จะมีคนเข้ามาคอยอุปถัมภ์ค้ำจุ้นให้ผ่านพ้นไปได้

ฝันเห็นรถว่ารถสตาร์ทไม่ติด ฝันว่ารถดับ จะทำนายฝันได้ว่ายังไง?

ฝันว่ารถสตาร์ทไม่ติด ฝันว่ารถดับ ทำนายฝันได้ว่าช่วงนี้คุณมีโอกาสได้พบกับคนหมู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการเจอลูกค้าหรือไปประชุมกับทีมอื่นๆ ต้องระวังคำพูดเอาไว้ให้ดี คิดก่อนพูดอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเรื่องโชคลาภผ่านเข้ามาบ้าง ต่อให้เจอเรื่องแย่ๆ เช่น เงินไม่พอใช้ ก็มีคนคอยช่วยเหลือให้รอดพ้นวิกฤตไปได้ ไม่ถึงกับต้องไปหา กู้เงินด่วน เป็นต้น

ฝันเห็นรถ ตัวเอง ฝันว่ารถไฟไหม้ ฝันว่ารถจมน้ำ ฝันว่ารถตกคลอง 2567

ฝันเห็นรถ ว่ารถจมน้ำ ฝันว่ารถตกคลอง จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถจมน้ำ รถตกคลอง ทำนายฝันได้ว่าช่วงนี้ที่มีเรื่องได้เดินทางไปต่างจังหวัด หรือต้องใช้รถเป็นยานพาหนะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทางไม่มีเหตุจำเป็นให้เดินทางก็อย่าเพิ่งไป ส่วนเรื่องการเงินก็เหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินก้อนแก้ปัญหา เช่น รถชนเกิดอุบัติเหตุ ต้องหาเงินมาจ่ายค่ายาค่าหมอ เป็นต้น แต่ถ้ามี ประกันรถยนต์ ก็อาจจะเบาค่าใช้จ่ายไปได้

ฝันเห็นรถว่ารถไฟไหม้ จะทำนายความฝันได้ว่ายังไง?

ฝันเห็นรถว่ารถไฟไหม้ ทำนายฝันได้ว่าช่วงนี้คุณมีเรื่องให้เสียเงินก้อนโตด้วยความใจร้อน หรือการตัดสินใจที่ขาดสติ ยิ่งเป็นเรื่องการลงทุนทำธุรกิจ ลงทุนเปิดร้านออนไลน์ก็ตามแต่ ควรใจเย็นกว่านี้ก่อนตัดสินใจอะไร คิดให้ดีและถี่ถ้วนอย่าเพิ่งตกลงไปในทันที เพราะสุดท้ายที่เสียประโยชน์ก็เป็นคุณเองไม่ใช่ใคร

สรุป

และนี่คือ 10 ความฝันเกี่ยวกับรถที่นำมาฝากกันครับ ซึ่งไม่ว่าความฝันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง ก็อยากให้คุณเตรียมรับมือเอาไว้ให้ดี มีสติในการใช้เงินและใช้ชีวิตอยู่เสมอ แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดเงินไม่พอใช้จริงๆ หมุนเงินไม่ทัน อยากได้เงินสักก้อนไปหมุนต่อในชีวิต ก็สามารถนำรถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่มา ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ ได้เลยกับ CarTrust เพราะเรารับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ให้คุณครับ