ไขข้อข้องใจ ติดแบล็คลิสกับ ติดเครดิตบูโร เหมือนกันไหม?

เรื่องจริงใช่ไหม ที่เขาว่ากันว่า เวลาติดเครดิตบูโรเพราะมีหนี้เสียจะกลายเป็นคนติดแบล็กลิส ทำให้เวลาสมัครบัตรเครดิต กู้สินเชื่อส่วนบุคคล กู้ซื้อรถ หรือกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เป็นต้น แล้วมีใครเคยสงสัยกันบ้างว่า ‘ติดแบล็คลิสกับติดเครดิตบูโรเหมือนกันไหม’ ทำไมถึงมีชื่อเรียกต่างกัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังหาคำตอบอยู่ว่า ติดเครดิตบูโร ติดแบล็คลิสคืออะไร แก้ยังไงได้บ้าง ถ้าอยากรู้แล้ว เชิญอ่านบทความนี้กันได้เลย

ติดเครดิตบูโร คืออะไร ข้อมูลเครดิต คืออะไร

ติดเครดิตบูโร คืออะไร เครดิตบูโร จะเก็บข้อมูลเครดิตอะไรบ้าง

ใครๆ ก็กลัวคำว่า ‘ติดเครดิตบูโร’ เพราะเป็นสิ่งที่บอกว่าสภาพคล่องทางการเงินของคุณไม่ได้ดีเท่าเมื่อก่อน และเป็นหนี้จนไม่สามารถหามาจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้รถยนต์ หนี้บ้าน หรือหนี้บัตรเครดิต จนทำให้ถูกเลื่อนสถานะจาก ‘คนมีหนี้ดี’ กลายเป็น ‘คนมีหนี้เสีย’ ซึ่งจริงๆ ติดเครดิตบูโรคืออะไร CarTrust อธิบายได้!

เครดิตบูโร คืออะไร? 

บริษัท ข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) หรือที่ถูกเรียกกันบ่อยๆ ว่า ‘เครดิตบูโร’ เป็นบริษัที่คอยจัดเก็บข้อมูลหรือรวบรวมข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระเงินของลูกค้าของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร เปรียบเสมือนแฟ้มที่บันทึกหนี้ของลูกหนี้ โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรเท่านั้นจะสามารถเข้าถึงแฟ้มบันทึกหนี้ได้ เครดิตบูโรเลยเป็นฐานข้อมูลวัดระดับความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางการเงินนั่นเอง

ค้างจ่ายหนี้กี่วัน กี่เดือน ถึงขึ้นสถานะ “ติดเครดิตบูโร”

การจะเข้าสู่สถานะ ‘ติดเครดิตบูโร’ ได้ คุณจะต้องมีการค้างชำระกับบัญชีต่างๆ เกินกว่า 90 วัน มีการขอพักหนี้ หรือเข้าข่ายในการเป็นหนี้เสียที่ไม่ยอมจ่ายเงินให้กับสถาบันการเงิน หรือที่เรียกกันว่า ‘หนี้เสีย NPL’ หรือ หนี้เรื้อรัง โดยสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสถานะทางการเงินของคุณไม่ปกติ และคุณมีความสามารถในการจ่ายหนี้ที่ต่ำ

ติดเครดิตบูโร ค้างจ่ายกี่วัน กี่เดือน ออกรถได้ไหม ซื้อบ้านได้ไหม

บริษัทข้อมูล เครดิตบูโร จะเก็บข้อมูลอะไรของเราบ้าง

เมื่อคุณสมัครสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เริ่มมีค่าผ่อนบ้าน ค่างวดรถให้ต้องจ่าย  สถาบันการเงินที่เป็นผู้ปล่อยกู้ให้จะส่ง ‘ข้อมูลเครดิต’ ให้กับบริษัท เครดิตบูโร บันทึกเอาไว้เป็นข้อมูลกลาง โดยข้อมูลแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

  • ข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ สถานภาพการสมรส อาชีพ เพื่อระบุตัวตนว่าคุณคือใคร
  • ข้อมูลหนี้สิน เช่น สินเชื่อที่เคยขอไปและได้รับการอนุมัติให้ผ่าน ประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติการใช้บัตรเครดิต ยอดผ่อนชำระสินเชื่อต่อเดือน 

สถานะติดเครดิตบูโร จะเก็บข้อมูลหนี้เอาไว้กี่ปี 

ติดเครดิตบูโรแล้วทางบริษัทข้อมูลเครดิตจะเก็บข้อมูลทางการเงินที่สถาบันการเงินส่งมาให้ไม่เกิน 3 ปีหรือ 36 เดือน ซึ่งระหว่างนี้ถ้าคุณทยอยจ่ายหนี้ประวัติก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยไปตามลำดับ 

สถานะติดเครดิตบูโร ออกรถได้ไหม ซื้อบ้านได้ไหม

ถ้าคุณเป็นคนที่ติดเครดิตบูโร (สถานะบัญชีไม่ปกติ) มักจะกู้ซื้อรถยนต์ไม่ผ่าน หรือกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆ ได้ประเมินจากข้อมูลเครดิตกองกลางที่ได้ส่งมาให้บริษัทเครดิตบูโรแล้วพบว่าคุณไม่มีความสามารถในการจ่ายหนี้บ้าน หรือจ่ายหนี้รถในอนาคตนั่นเอง 

บัญชีขึ้นสถานะว่าติดเครดิตบูโร แก้ยังไงให้กลับมาเป็นปกติ?

หลังจากที่เป็นหนี้เสีย NPL แล้วคุณต้องไปขอพักการจ่ายหนี้ และเริ่มจ่ายหนี้ในจำนวนขั้นต่ำก่อน แล้วค่อยๆ ทยอยปิดหนี้ทีละก้อนไม่ให้เหลือค้างในระบบ ซึ่งวิธีที่จะมีเงินไปทยอยจ่ายหนี้ได้คือหาแหล่งกู้เงินที่จะทำให้คุณได้เงินก้อน ซึ่ง CarTrust เองก็มีบริการปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมรีไฟแนนซ์รถยนต์ ให้บริการนะครับ 

ยิ่งถ้าคุณเลือกกู้สินเชื่อรวมหนี้ สินเชื่อแก้หนี้เสีย กับสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรก็จะทำให้เครดิตทางการเงินของคุณได้รับการบันทึกเข้าเครดิตบูโร เพราะสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรจะคอยตามเก็บประวัติการชำระเงินและส่งข้อมูลการชำระเงินของคุณเข้าระบบนั่นเอง

ติดแบล็คลิสกับเครดิตบูโรเหมือนกันไหม ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ไหนดี

ไขข้อข้องใจ! ติดแบล็คลิสกับติดเครดิตบูโรเหมือนกันไหมนะ? 

ติดบัญชีดำ หรือติดแบล็คลิส เป็นอีกหนึ่งคำที่ใครๆ หลายคนก็กลัวไม่ต่างจากการติดเครดิตบูโรเลย ซึ่งถ้าถามว่า ติดแบล็คลิสกับเครดิตบูโรเหมือนกันไหม คำตอบคือ ‘ไม่’ เพราะเครดิตบูโรมีหน้าที่แค่จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของคุณเท่านั้น ดังนั้น การติดบัญชีดำหรือติดแบล็คลิสในเครดิตบูโรจึงไม่มีจริงนะครับ! 

ซึ่งการรายงานข้อมูลเครดิตเป็นการรายงานข้อมูลจริงๆ จากคลังประวัติที่สถาบันการเงินได้ส่งเอาไว้ให้ในระยะเวลาที่ผ่านมา เครดิตบูโรไม่เคยขึ้นบัญชีดำใคร ไม่เคยขึ้นแบล็คลิสใครทั้งสิ้น  อีกทั้งเครดิตบูโรไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าใครกู้บ้านไม่ผ่าน กู้รถไม่ผ่าน หรือร่วมตัดสินใจกับใครทั้งนั้น 

ดังนั้น กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน กู้ซื้อรถยนต์ไม่ผ่าน เพราะติดเครดิตบูโรจนโดนขึ้นบัญชีดำหรือติดแบล็คลิส ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเลยครับ แต่อาจเป็นเพราะเงื่อนไขตามแต่ละสถาบันการเงินที่คุณไปทำเรื่องกู้สินเชื่อ 

หากคุณกลัวว่าวันหนึ่งจะต้องกลายเป็นคนติดเครดิตบูโร เนื่องจากเริ่ม ผ่อนรถต่อไม่ไหว ค้างค่างวดรถ ถ้ารู้ตัวเร็วก็รีบเตรียมเอกสาร เอารถเข้าไฟแนนซ์ หรือย้ายไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนอยู่ ได้เลย จะได้ไม่ต้องเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจนกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด

สรุป 

ติดเครดิตบูโรคือการที่สถานะบัญชีผิดปกติ เนื่องจากคุณค้างจ่ายกับสถาบันการเงินเกินกว่า 90 วัน ซึ่งคำว่าติดแบล็คลิสไม่ได้มีอยู่จริงในข้อมูลเครดิต ข้อมูลทุกอย่างที่ปรากฏในเครดิตบูโรมาจากการส่งประวัติการชำระเงิน ประวัติการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ดังนั้น ข้อมูลล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น และบริษัทข้อมูลเครดิตไม่ได้มีอำนาจขึ้นบัญชีดำใคร ดังนั้น ถ้าผ่อนรถไม่ไหว แล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก็รีบมาทำเรื่อง ปิดเล่มรถยนต์ หรือ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์์ ได้เลยครับ ซึ่ง CarTrust รับปิดไฟแแนนซ์รถยนต์ อยู่นะครับ มาใช้บริการกันได้เลย


ขอบคุณข้อมูลจาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ 

โอนรถยนต์เปลี่ยนเจ้าของ ที่ไหนดี กี่บาท กี่วันได้เล่ม ใช้เอกสารอะไรบ้าง

อยากเอารถเข้าไฟแนนซ์ แต่รถคันนั้นไม่ใช่ชื่อเราเป็นชื่อของคนอื่น หนทางเดียวคือ โอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของในเล่มทะเบียนรถยนต์ให้เป็นชื่อเดียวกับคนที่จะทำเรื่อง เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ แต่คำถามคือ โอนรถยนต์เปลี่ยนเจ้าของ ใช้เอกสารอะไรบาง เสียเงินกี่บาท กี่วันได้เล่ม ต้องตรวจสภาพรถไหม โอนรถยนต์กี่วันเข้าไฟแนนซ์ได้ หากคุณกำลังสงสัยเรื่องของการโอนรถยนต์เปลี่ยนเจ้าของ CarTrust หาคำตอบมาให้แล้ว!

โอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของ โอนเล่มทะเบียนรถ คืออะไร

โอนชื่อรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของในเล่มทะเบียนรถ คืออะไร?

โอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของ คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จากเจ้าของรถยนต์คนเดิมไปให้เจ้าของรถยนต์คนใหม่ ให้มีสิทธิ์ทุกอย่างในการทำใดใดตามกฎหมายของรถคันนั้น โดยการโอนรถยนต์เกิดขึ้นได้หลายกรณี เช่น

  • โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถให้คนอื่น เพราะซื้อขายรถมือสอง 
  • โอนรถยนต์เปลี่ยนเจ้าของแบบยกให้ เช่น แม่โอนรถยนต์ให้ลูก 
  • โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบมรดกตกทอด เช่น เจ้าของคนเก่าเสียชีวิต เลยต้องโอนรถ 

เมื่อทำเรื่องโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของในเล่มทะเบียนรถยนต์แล้ว เจ้าของรถคนล่าสุดสามารถซื้อประกันรถยนต์  ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้เลย หรือถ้าวันหนึ่งเกิดหมุนเงินไม่ทัน ผ่อนรถต่อไม่ไหว อยากเอารถเข้ารีไฟแนนซ์ ก็ทำได้เลยเช่นกัน เพราะรถยนต์คันนั้นถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณตามกฎหมายแล้ว

ดังนั้น หากใครกำลังจะทำเรื่องโอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของ แต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรยังไงบ้าง CarTrust จะแจกแจงให้เข้าใจง่ายๆ โดยรวบรวมจากคำถามยอดฮิตของการโอนชื่อในทะเบียนเล่มรถยนต์ ดังนี้

โอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของในเล่มทะเบียนรถ มีกี่แบบอะไรบ้าง?​

ในปัจจุบันการโอนรถยนต์เปลี่ยนเจ้าของใหม่ หรือ โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนรถ มีให้คุณเลือกใช้อยู่ด้วยกัน 2 กรณีครับ โดยจะถูกแบ่งเป็น (1) โอนรถยนต์แบบโอนตรง (2) โอนรถยนต์แบบโอนลอย ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป คุณสามารถเลือกโอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของได้ตามสะดวกเลยนะครับ 

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบโอนตรง คืออะไร? 

การโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบโอนตรง คือ การโอนรถยนต์ที่เจ้าของรถคนเก่าและเจ้าของรถคนใหม่ ไปทำเรื่องโอนชื่อเล่มทะเบียนรถยนต์พร้อมกันต่อหน้านายทะเบียนที่สำนักขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียนไว้ โดยรถคันที่ใช้โอนชื่อต้องมีสภาพรถตรงกับข้อมูลในใบคู่มือจดทะเบียนรถ  

แน่นอนว่าการโอนรถยนต์แบบโอนตรง ค่อนข้างมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ต้องมีผู้โอนกับผู้รับโอนแบบพร้อมหน้า แต่ก็เป็นการโอนชื่อรถยนต์ที่ทำให้เจ้าของคนใหม่กับเจ้าของคนเก่าสบายใจว่าจะไม่มีปัญหาอะไรตามมา 

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบโอนลอย คืออะไร?​

การโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบโอนลอย คือ การโอนรถยนต์ที่เจ้าของรถคันเก่ายังไม่ได้ระบุชื่อผู้รับโอน และยังไม่ได้ไปทำเรื่องโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อต่อหน้านายทะเบียนที่สำนักขนส่ง โดยเจ้าของคนเก่าต้องส่งต่อเอกสารโอนรถยนต์ไปให้เจ้าของคนใหม่ไปทำเรื่องโอนรถยนต์เองที่สำนักขนส่ง 

ซึ่งโดยมากแล้วการโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของแบบโอนลอย จะนิยมใช้ในการขายรถยนต์มือสอง เพราะช่วยให้การโอนรถยนต์ไวขึ้น ประหยัดเวลาไม่ต้องไปทำเรื่องพร้อมๆ กันที่สำนักขนส่งทางบก 

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ โอนเล่มทะเบียนรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า การโอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของมีด้วยกัน 3 กรณีหลักๆ คือ (1) โอนรถยนต์เพราะขายรถ (2) โอนรถยนต์เพราะยกให้ (3) โอนรถยนต์เพราะเสียชีวิต ซึ่งการโอนรถยนต์แต่แบบที่ 1 และ 2 คุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะโอนรถยนต์แบบตรงหรือโอนรถแบบโอนลอย เตรียมเอกสารคล้ายๆ กัน แต่ในกรณีที่  3 ที่โอนชื่อรถยนต์เพราะเป็นมรดกตกก็จะมีเอกสารที่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายฉบับ โดยแจกแจงได้ ดังนี้ 

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของในเล่มทะเบียนแบบโอนตรง ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสมุดจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง
  • สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของคนเก่า และเจ้าของคนใหม่
  • สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
  • แบบคำขอโอนและรับโอน ที่มีลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนแล้ว

โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์แบบโอนลอย ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสมุดจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง
  • สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของคนเก่า และเจ้าของคนใหม่
  • สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี 
  • แบบคำขอโอนและรับโอน ที่มีลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนแล้ว
  • หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบ

โอนชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์ แบบเป็นมรดกตกทอด ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือสมุดจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง
  • แบบคำขอโอนและรับโอน ที่มีลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนแล้ว
  • สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
  • สำเนาใบมรณะบัตรเจ้าของรถ และคำสั่งศาลหรือพินัยกรรมพร้อมสำเนา
  • หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ
โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ โอนเล่มทะเบียนรถ ที่ไหนดี?

โอนชื่อรถยนต์ในกรุงเทพ โอนชื่อรถยนต์ต่างจังหวัด ได้ที่ไหนบ้าง? 

ถ้าจะโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของ ควรไปโอนรถยนต์ที่ไหนดี เพราะบางทีตอนที่ประกาศขายรถยนต์มือสองไป คนซื้อดันอยู่คนละจังหวัดกัน เลยไม่แน่ใจว่า ต้องไปโอนรถยนต์ที่สำนักขนส่งที่ไหนได้บ้าง ไม่เป็นไรครับ CarTrust จะตอบคำถามคาใจให้คุณตามลำดับ ดังนี้ 

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ กรมขนส่งทางบก กรุงเทพ ที่ไหนดี

ในกรณีที่ผู้โอนชื่อรถยนต์กับผู้รับโอนชื่อรถยนต์อยู่ในกรุงเทพมหานครเหมือนกัน ก็สามารถดำเนินการได้ที่สำนักขนส่ง 5 แห่งในกรุงเทพ คือ 

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ที่จังหวัดอื่น ที่ไหนดี

ในกรณีที่ทั้งผู้โอนชื่อรถยนต์กับผู้รับโอนชื่อรถยนต์อยู่ต่างจังหวัด คงอยากรู้ว่า โอนรถยนต์ที่ไหนดี  เรื่องนี้ง่ายมากครับ สามารถดำเนินการทำเรื่องโอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อเจ้าของได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่อยู่ เช่น คุณอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็โอนเปลี่ยนชื่อรถยนต์ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น โดยคุณสามารถค้นหา สำนักขนส่งของแต่ละจังหวัด ได้ที่ เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ได้เลย

โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถแบบโอนข้ามจังหวัด ได้ไหม?

ในกรณีที่ผู้โอนอยู่จังหวัดหนึ่ง และผู้รับโอนอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ก็สามารถทำเรื่องโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ได้เลยนะครับ เพียงแค่ไปทำเรื่องที่สำนักขนส่งจังหวัดแล้วแจ้งว่าจะโอนรถยนต์ข้ามจังหวัดทะเบียนเดิม นายทะเบียนก็จะมีใบคำขอให้คุณกรอกเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าเจ้าของรถขออนุญาตให้รถในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ โอนเล่มทะเบียนรถ เสียเงินเท่าไหร่

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ เสียเงินเท่าไหร่ มีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง?

ไม่ว่าจะโอนรถยนต์ในกรุงเทพ โอนรถยนต์ในต่างจังหวัด หรือโอนรถยนต์ข้ามจังหวัด ก็จะเสียเงินเท่ากัน ดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมในการโอนรถยนต์ 100 บาท
  • ค่าคำขอในการโอนรถยนต์ 5 บาท
  • ค่าเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ (ถ้าอยากเปลี่ยน) 200 บาท
  • ค่าเปลี่ยนทะเบียนเล่มรถยนต์ (ถ้าชำรุดเสียหาย) 100 บาท
  • ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อการประเมินราคารถยนต์ 100,000 บาท

โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ ใช้เวลากี่วัน นานไหมถึงจะได้เล่มรถยนต์? 

สำหรับการโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ จะช้าหรือเร็ว ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณเตรียมเอกสารในการโอนชื่อรถยนต์ให้พร้อม ใช้เวลาเพียงแค่ 2-4 ชั่วโมง หรือในกรณีที่ติดขัดเรื่องเอกสารโอนรถยนต์ นานที่สุดคือ 15 วันทำการ ก็จะได้เล่มทะเบียนรถยนต์ที่ผ่านการทำเรื่องโอนชื่อเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์มาแล้ว

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ ในเล่มทะเบียน ต้องแจ้งใครบ้าง?

สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องทำหลังจากโอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของแล้ว คือต้องแจ้งเรื่องต่อนายทะเบียน ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันเริ่มเซ็นเอกสารโอนรถ หากเกินระยะเวลาที่กำหนดมีโทษปรับ 2,000 บาท

โอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของในเล่มทะเบียน ต้องตรวจสภาพรถไหม

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าสภาพรถยนต์ในตอนที่จะทำเรื่องโอนรถยนต์ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ ต้องตรงกับข้อมูลในใบคู่มือจดทะเบียนรถ หากคุณทำการดัดแปลงสภาพรถยนต์ แต่งรถยนต์มาก่อนหน้า ต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ก่อน เพียงนำรถไปที่ฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบกแล้วปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันก็สามารถทำเรื่องโอนชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์ได้แล้ว

โอนรถยนต์เปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์เสร็จแล้วกี่วันเข้าไฟแนนซ์ได้

เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะไปทำเรื่องเอารถเข้าไฟแนนซ์ที่ไหน เพราะสถาบันแต่ละแห่งก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยมากแล้วหลังจากที่ทำเรื่องโอนรถยนต์เปลี่ยนเชื่อในเล่มทะเบียนเสร็จแล้ว คุณต้องมีกรรมสิทธิ์รถยนต์คันนั้นก่อนอย่างน้อย 30 วัน หรือบางแห่งคือ 90 วัน หลังจากนั้นก็ทำเรื่องเอารถเข้าไฟแนนซ์ได้เลย

สรุป

และนี่คือเรื่องราวของการโอนรถยนต์ เปลี่ยนเจ้าของรถ ในเล่มทะเบียนรถยนต์ ให้กลายเป็นชื่อของผู้ที่จะทำเรื่องเอารถเขาไฟแนนซ์ที่ CarTrust นำคำตอบมาฝากกัน จะเห็นได้ว่า การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมเอกสารโอนรถยนต์ เตรียมเงินค่าโอนรถยนต์ ก็สามารถดำเนินเรื่องได้ที่สำนักขนส่งตามจังหวัดที่คุณอยู่ได้เลยครับ เพียงเท่านี้ก็สามารถเอารถเข้าไฟแนนซ์ได้แล้ว แต่ถ้าคุณผ่อนรถต่อไม่ไหว ก็ให้มา ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ ที่ CarTrust ได้เหมือนกันนะครับ จะได้ผ่อนค่างวดรถให้ถูกลง และได้เงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอีกด้วย

บอกต่อ! วิธีปิดหนี้รถยนต์ ก่อนกู้เงินลงทุนทำธุรกิจ ให้ผ่านฉลุย

อยู่ๆ ก็มีไอเดียอยากเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะอยากหาเงินหลายๆ ทางเข้ากระเป๋า แต่ก็ติดตรงที่ไม่มีเงินทำธุรกิจ หากต้องค่อยๆ เก็บเงินเพื่อทำธุรกิจคงสายเกินไป หนทางเดียวในตอนนี้คือ กู้เงินลงทุน ทำธุรกิจ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ ผ่อนรถอยู่ กู้สินเชื่อได้ไหม อยากปิดหนี้รถยนต์ แต่ไม่มีเงินก้อน จะทำยังไงดี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ CarTrust มีทางออกดีๆ มาให้แล้วครับ!

ไม่เคยติดเครดิตบูโร ทำไมกู้สินเชื่อ กู้เงินลงทุนธุรกิจ ไม่ผ่าน

ไม่เคยติดเครดิตบูโร ไม่เคยติดแบล็กลิสต์ ทำไม กู้เงินลงทุน ไม่ผ่าน?

คนที่เคยผ่านการกู้สินเชื่อมาบ้าง น่าจะคุ้นเคยกับคำว่า ‘ติดเครดิตบูโร’ และ ‘ติดแบล็กลิสต์’ กันอยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานะนี้ เพราะทำให้กู้สินเชื่อไม่ผ่าน หรือผ่านได้ยาก 

แต่ที่สงสัยก็คือ เป็นคนมีภาระเยอะ เช่น หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต แล้วอยาก กู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ ทำไมถึงกู้ไม่ผ่านกันนะ ทั้งที่ทุกเดือนก็จ่ายเงินค่างวดรถ และจ่ายเงินค่าบัตรเครดิตตรงเวลา ไม่เคยจ่ายเงินขั้นต่ำเลย ซึ่งเรื่องนี้มีสาเหตุของการกู้ไม่ผ่านมีด้วยกัน 4 เหตุผล คือ

กู้เงินลงทุน ทำธุรกิจไม่ผ่าน เพราะนโยบายสถาบันการเงิน

แต่ละสถาบันการเงินแต่ละแห่งต่างก็มีเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้กู้สินเชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น อายุในการกู้สินเชื่อ รายได้ขั้นต่ำ เป็นต้น หากคุณสมบัติของคุณไม่ตรงตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินตั้งเอาไว้ ก็มีโอกาสที่จะกู้เงินลงทุนทำธุรกิจไม่ผ่าน 

กู้เงินทำธุรกิจไม่ผ่าน เพราะประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา 

ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา คือ วินัยในการจ่ายเงินของคุณ เช่น ค่างวดรถ ค่าบัตรเครดิต ว่าจ่ายเต็มจำนวน และตรงเวลาไหม เคยค้างค่างวดรถหรือเปล่า เพราะสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร จะส่งข้อมูลเครดิตนี้ไปที่บริษัท ข้อมูลเครดิตบูโร เป็นข้อมูลกลาง ไว้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่นำมาตัดสินเวลาอนุมัติสินเชื่อ 

กู้เงินลงทุน ทำธุรกิจไม่ผ่าน เพราะหลักประกันสินเชื่อ

การขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินมี 2 ประเภท คือ (1) สินเชื่อแบบมีหลักประกัน (2) สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน หากคุณกู้เงินลงทุนทำธุรกิจด้วยสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ต้องมีทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์มาเป็นหลักประกันในการกู้สินเชื่อด้วย เช่น บ้าน รถยนต์ บัญชีเงินฝาก ซึ่งหลักประกันสินเชื่อที่คุณมีอาจอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายเลยไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อได้ ทำให้กู้สินเชื่อไม่ผ่าน

กู้เงินลงทุน ทำธุรกิจ ไม่ผ่าน เพราะ หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต

กู้สินเชื่อทำธุรกิจไม่ผ่าน เพราะมีภาระหนี้สินเยอะ

เวลากู้เงินลงทุนทำธุรกิจ กู้สินเชื่อบ้าน กู้สินเชื่อรถ สถาบันการเงินต่างๆ จะกำหนด สัดส่วนภาระหนี้สินต่อรายได้  (Debt Service Ratio) ที่เป็นความสามารถในการชำระหนี้สิน โดยธนาคารแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า ภาระหนี้สินที่มีไม่ควรเกินกว่า 40% ของรายได้ เพราะถ้าเกินกว่านั้น สถาบันการเงินจะมองว่าสุขภาพทางการเงินมีปัญหา ไม่สามารถจ่ายหนี้ก้อนใหม่ได้ จึงไม่อนุมัติ ซึ่งภาระหนี้สินของรายได้มี 4 ระดับ 

  • DSR น้อยกว่า 15% คือ ภาระหนี้อยู่ในเกณฑ์ดี
  • DSR 15%-40% คือ ภาระหนี้อยู่ในเกณฑ์​เหมาะสม
  • DSR 40-50% คือ ภาระหนี้เกินตัว
  • DSR มากกว่า 50% คือ หนี้เกินตัวเข้าขั้นอันตราย

สมมติว่า รายได้ต่อเดือน 25,000 บาท ผ่อนรถยนต์เดือนละ 9,500 บาท หนี้บัตรเครดิต 3,500 บาท โดยวิธีคิดว่าภาระหนี้สินไม่เกินรายได้ 40% และหนี้ต่อเดือนเป็นเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้กู้เงินลงทุนทำธุรกิจได้ มีดังนี้ 

  • รายได้ต่อเดือน x 40% = หนี้สินที่สามารถผ่อนได้
    แทนสูตรเป็น 25,000 x 40% = 10,000 บาท
  • หนี้สินที่ต้องจ่ายต่อเดือน = 9,500 + 3,500 = 13,000 บาท

สรุปได้ว่า หนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบันเกินกว่า 40% ของรายได้ เลยทำให้คุณไม่สามารถกู้เงินลงทุนทำธุรกิจได้ เพราะสถาบันการเงินมองว่า วงเงินในการกู้เต็มแล้ว หากปล่อยให้กู้สินเชื่อ แล้วถ้าผ่อนจ่ายไม่ไหว เช่น ผ่อนรถต่อไม่ไหว ก็จะเป็นการเพิ่มหนี้ให้กับคุณ มีโอกาสเป็นหนี้เสีย NPL ติดเครดิตบูโร เป็นต้น 

ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมรีไฟแนนซ์ ที่ไหนดี

ถ้า ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์และรีไฟแนนซ์ จะได้เงินก้อนไหม?

เมื่อตัดสินใจได้ว่าอยากปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ เพื่อให้มีวงเงินมากพอจะไปกู้เงินลงทุนทำธุรกิจ แต่ก็ไม่มีเงินก้อนไป ปิดเล่มรถยนต์ ถ้าดันทุรัง กู้เงินลงทุนทำธุรกิจก้อนใหม่ จะทำให้เป็นหนี้รถยนต์ และหนี้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ หากวันหนึ่งหมุนเงินไม่ทัน ผ่อนรถต่อไม่ไหว เงินช็อต มีโอกาสที่กลายเป็นหนี้เสียได้ในที่สุด 

ดังนั้น การ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อม ปิดเล่มรถยนต์ อาจเป็นอีกหนึ่ง ซึ่ง  CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ นะครับ โดยจะช่วย ปิดเล่มรถยนต์ ที่สถาบันการเงินเดิม แล้วรีไฟแนนซ์รถยนต์กับที่ใหม่ที่ได้ดอกเบี้ยรถยนต์ถูกลง และยังได้เงินส่วนต่างไปลงทุนทำธุรกิจที่คุณวางแผนเอาไว้ได้อีกด้วย 

ในมุมของคนที่จะกู้เงินลงทุน ทำธุรกิจ คงอยากรู้ว่า เงินส่วนต่างที่ได้จะเป็นจำนวนเท่าไหร่ จะได้นำเงินมาแบ่งสันปันส่วนในการลงทุนทำธุรกิจ เรื่องนี้ไม่ยากครับ คุณสามารถเข้าไปประเมินวงเงินสินเชื่อโดยประมาณสำหรับปิดเล่มรถยนต์พร้อมรีไฟแนนซ์รถได้ที่เว็บไซต์ของ CarTrust ได้เลย  เพียงเท่านี้คุณก็หมดห่วงเรื่องค่างวดรถ และมีเงินก้อนไปลุยทำธุรกิจที่อยากจะทำได้แล้ว ดังนั้น  เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ จะดีที่สุด 

สรุป

อยากกู้เงินลงทุนทำธุรกิจ แต่ติดว่ามีหนี้รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ วิธีก็ง่ายมากครับ เพียงแค่คุณทำเรื่อง ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ หรือ ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยลดภาระค่างวดรถและดอกเบี้ยรถยนต์ให้น้อยลงแล้ว ยังทำให้คุณได้เงินส่วนต่างไปลงทุนทำธุรกิจได้อีกด้วย!

ขอบคุณข้อมูลจาก : ธนาคารแห่งประเทศไทย

มูเตลู! รวม คาถาออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านาง เรียกเงินเรียกทอง

ที่พึ่งทางใจของมนุษย์คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็นแต่เชื่อว่ามีอยู่จริง ไม่ว่าจะคิดทำอะไรมักจะอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครอง ซึ่งการออกรถใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมที่นิยมทำกันตามความเชื่อที่ว่า ออกรถใหม่ป้ายแดงแล้วท่องคาถาออกใหม่ คาถาก่อนออกรถ ไหว้แม่ย่านาง นอกจากจะทำให้ปลอดภัยเดินทางราบรื่นไร้อุบัติเหตุ การท่องคาถาออกรถยังเป็นช่วยเรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาอีกด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้ว่า ออกรถใหม่ใช้อะไรบ้าง ต้องไหว้อะไรบ้าง ใช้พวงมาลัยกี่พวง คาถาก่อนออกรถท่องยังไง มีคำตอบมาให้ครับ!

คาถาออกรถใหม่ คาถาก่อนออกรถ คาถาไหว้แม่ย่านาง ท่องยังไง?

การออกรถใหม่จะมีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น คือการท่องคาถาคู่กันไปด้วย ซึ่งการออกรถใหม่ในแต่ละขั้นตอน ก็จะมีคาถาออกรถใหม่ที่ต่างกันเพื่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณกำลังอ้อนวอนให้มาปกปักรักษาหรือคุ้มครองเมื่อกำลังจะเริ่มใช้รถ จะได้แคล้วคลาดปลอดภัย เงินจะได้ไหลมาเทมา ซึ่งคาถาออกรถใหม่มีด้วยกัน ดังนี้

คาถาก่อนออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านางรถ ท่องยังไง ต้องใช้อะไรบ้างนะ? 

ในสมัยก่อนที่ยังใช้เรือเป็นยานพาหนะโดยสาร มีความเชื่อกันว่า แม่ย่านางคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เรือเปรียบเสมือนเทพธิดาประจำเรือที่คอยคุ้มครองให้ผู้โดยสารปลอดภัยจากอันตราย และยังให้โชคลาภเรื่องเงินๆ ทองๆ แก่เจ้าของเรือด้วย เมื่อกาลเวลาผ่านไปเปลี่ยนจากรถมาเป็นเรือ คนไทยก็ยัง ท่องคาถาออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านางรถ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่การใช้รถ เรียกเงินเรียกทองจากรถคันนั้นเช่นเดิมครับ

คาถาไหว้แม่ย่านาง คาถาออกรถใหม่ ก่อนออกรถใหม่ ต้องท่องยังไง

คาถาไหว้แม่ย่านางออกรถใหม่ คาถาออกรถใหม่ ท่องยังไง ให้ร่ำรวยเงินทอง

“อิติ สุคะโต อาระหังพุธโท นโมพุทธายะ 

ปัตถวีคงคา ภุมมะเทวา ขมามิหัง สุจิโต พุทธัง 

แคล้วคลาด ธรรมมัง แคล้วคลาด สังฆัง แคล้วคลาด”*

*ไหว้เพียง 1 รอบเท่านั้น

ไหว้แม่ย่านางก่อนออกรถใหม่ คาถาออกรถใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ไหว้แม่ย่านางออกรถใหม่ ใช้พวงมาลัยกี่พวง ต้องไหว้อะไรบ้าง?

ต่อให้ออกรถใหม่ป้ายแดง หรือออกรถใหม่มือสอง ควรเตรียมพวงมาลัยไหว้แม่ย่านางไว้ด้วย โดยต้องเตรียมใช้ธูปทั้งหมด 9 ดอกและเทียน 1 คู่เป็นหลัก รวมไปถึงพวงมาลัย 2 ชาย จำนวน 3 พวง ซึ่งสีริบบิ้นของพวงมาลัยจะขึ้นอยู่กับฤกษ์วันออกรถ ดังนี้ 

  • ออกรถใหม่วันอาทิตย์ ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นสีเขียว
  • ออกรถใหม่วันจันทร์ ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นสีม่วง
  • ออกรถใหม่วันอังคาร ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นสีน้ำเงิน
  • ออกรถใหม่วันพุธ ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นสีเหลือง
  • ออกรถใหม่วันพฤหัสบดี ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นแดง
  • ออกรถใหม่วันศุกร์ ควรใช้พวงมาลัยริบบิ้นสีชมพู
  • ออกรถใหม่วันเสาร์ ควรพวงมาลัยริบบิ้นสีฟ้า
คาถาไหว้แม่ย่านางรถประจำปี คาถาลาแม่ย่านาง ท่องยังไง ใช้อะไรบ้าง?

คาถาไหว้แม่ย่านางรถประจำปี คาถาลาแม่ย่านาง คาถาออกรถใหม่ ท่องยังไง ใช้อะไรบ้าง? 

หลังจากที่ใช้รถยนต์มาได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องไหว้แม่ย่านางทุกๆ ปี ถึงแม้จะมีชื่อเรียกว่า คาถาออกรถใหม่ก็ตาม แต่คนไทยนิยมใช้ไหว้แม่ย่านางประจำปี โดยส่วนมากจะนิยมไหว้แม่ย่านางประจำปีทุกๆวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือถ้าไม่ได้ไหว้แม่ย่านางวันปีใหม่ ก็หาช่วงเวลาที่สะดวกทดแทนได้ เพื่อเป็นการบูชาให้แม่ย่านางรับรู้ว่า คุณยังคงเคารพและนับถืออยู่เหมือนเคย แม่ย่านางเองก็จะได้ช่วยปกป้องและช่วยให้โชคลาภในทุกปีๆ

คาถาออกรถใหม่ คาถา ไหว้แม่ย่านางประจำปี ใช้ของไหว้อะไรบ้าง

ไหว้แม่ย่านางรถประจำปี ใช้ของไหว้อะไรบ้าง

ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนท่องคาถาออกรถใหม่ไหว้แม่ย่านางประจำปีและคาถาลาแม่ย่านาง มีของไหว้แม่ย่านางรถที่คุณต้องเตรียมให้พร้อมก่อนด้วยครับ ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมด้วยกันมี 7 อย่าง คือ 

  • ธูป 9 ดอกและเทียน 1 คู่
  • ผลไม้ 5 อย่าง ได้แก่ กล้วยหอม ทับทิม แก้วมังกร ส้ม แอปเปิลแดง 
  • ข้าวสาร 1 ถ้วย
  • น้ำ 1 แก้ว
  • ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่  (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)​
  • หมาก พลู และยาเส้นสีฟัน 3 คำ 
  • ยาสูบ 3 มวน
คาถาออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านางประจำปี ต้องท่องยังไง

คาถาออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านางประจำปี ท่องยังไง ให้มีโชคลาภ

 “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)

สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ

ทุติยัมปิ สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ

ตะติยัม สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ”

หลังจากที่ท่องคาถาออกรถใหม่ไหว้แม่ย่านางแล้ว ให้คุณกล่าวว่าตามด้วยว่า “ลูกขอถวายสิ่งของเหล่านี้แก่แม่ย่านางรถ ขอท่านจงรับซึ่งสิ่งของเหล่านี้ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ลูกทั้งหลายเทอญ สาธุ” หลังจากนั้นก็เริ่มขอคำอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการได้เลย เช่น ขอให้เงินไหลมาเทมา ขับรถปลอดภัย ขอให้รถคันนี้ช่วยสร้างเงินสร้างทองให้ลูก แล้วถ้าในอนาคตลูกผ่อนรถต่อไม่ไหว ขอให้ลูกมีทางออกเรื่องนี้ ขอให้ไม่เป็นหนี้เรื้อรัง เป็นต้น

คาถาลาของไหว้ แม่ย่านางประจำปี

คาถาลาแม่ย่านางหลังไหว้แม่ย่านางประจำปี ไปแล้ว

หลังจากที่ไหว้แม่ย่านางประจำปี คุณสามารถท่องคาถาลาของไหว้แม่ย่านางได้ครับ ซึ่งของไหว้นี้สามารถลามาเพื่อกินได้ ต่างจากของแก้บนที่ไม่สามารถลามากินได้ ซึ่งสามารถท่องคาถาลาแม่ย่านาง ได้ตามนี้

“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)

พุทธังลา ธัมมังลา สังฆังลา” 

หลังจากนั้นให้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอลาสิ่งของเหล่านี้เพื่อให้เป็นทานต่อไป เป็นยารักษาโรค อย่าให้เกิดโทษเลย นะ เสสัง มังคะลา ยาจามะ”

สรุป 

และนี่คือคาถาออกรถใหม่ ไหว้แม่ย่านาง เพื่อให้การออกรถใหม่ของคุณเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย และช่วยเรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา เรื่องนี้คือความเชื่อส่วนบุคคล คุณจะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าวันหนึ่งเริ่ม ผ่อนรถต่อไม่ไหว ส่งค่างวดรถไม่ไหว อยากจ่ายค่างวดรถให้น้อยลง อยากได้เงินก้อนมาหมุนต่อ ถ้ารอแม่ย่านางช่วยไม่ไหว ให้เราช่วยได้นะครับ เพราะ CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ ปิดไฟแนนซ์ ซึ่งนอกจากคุณจะผ่อนค่างวดน้อยลงแล้ว ยังได้เงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอีกด้วย

เฉลยให้! สถานะ เครดิตบูโร คืออะไร ต้องติดเครดิตบูโรกี่ปีถึงหาย?

เครดิตบูโร ที่บอก ‘สถานะเครดิตบูโร’ เป็นหนึ่งเงื่อนไขที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาว่า ควรอนุมัติการขอ สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสมัครบัตรเครดิต ให้ผ่านหรือไม่ ซึ่งหลายคนที่กู้สินเชื่อไม่ผ่านก็เข้าใจไปว่าเป็นเพราะติดเครดิตบูโร แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนเข้าใจไม่ผิด มาดูกันว่า สถานะเครดิตบูโร คืออะไร?

เครดิตบูโร คืออะไร ข้อมูลเครดิต เก็บอะไรบ้าง เก็บกี่ปี

ไขข้อสงสัย เครดิตบูโร คืออะไร เก็บ ข้อมูลเครดิต อะไรไปบ้าง? 

ต่อให้จะเคยกู้สินเชื่อมาบ้าง หรือไม่เคยกู้สินเชื่ออะไรเลย แทบทุกคนก็กังวลกับคำว่า ‘ติดเครดิตบูโร’ เพราะถือเป็นสถานการณ์ยิ่งใหญ่ที่ทำให้กู้สินเชื่อไม่ผ่าน ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ ‘ข้อมูลเครดิต’ ที่เครดิตบูโรเป็นผู้จัดเก็บนะครับ ถ้าข้อมูลเครดิตแสดงสถานะเครดิตดีโอกาสที่จะกู้สินเชื่อผ่านก็มีเยอะมากกว่า ดังนั้น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ข้อมูลเครดิต ที่แสดง สถานะเครดิตบูโร กันดีกว่าว่าคืออะไรกันแน่นะ?​

เครดิตบูโรคืออะไร ทำไมถึงต้องเก็บข้อมูลเครดิตไว้ด้วย?

เครดิตบูโร คือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด  (National Credit Bureau)  ทำหน้าที่จัดเก็บ ‘ข้อมูลเครดิต’ หรือที่เรียกว่าข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระเงินสินเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ ของผู้กู้สินเชื่อบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 

โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ส่งข้อมูลมาไว้เป็นกองกลาง เมื่อต้องพิจารณาสินเชื่อก็จะนำข้อมูลเครดิตเหล่านี้มาประเมินความเสี่ยงว่าควรอนุมัติให้ผ่านหรือเปล่า แต่การพิจารณาไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลเครดิตเพียงอย่างเดียว มีข้อมูลอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น เงินเดือน หลักประกันสินเชื่อ เป็นต้น

ข้อมูลเครดิต ของ เครดิตบูโร สำคัญยังไง เก็บข้อมูลอะไรบ้าง?

ข้อมูลเครดิต คือข้อมูลที่บ่งบอกพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของผู้กู้สินเชื่อ โดยจะเป็นฐานข้อมูลที่ให้สถาบันการเงินมาตรวจสอบว่า คุณมีความตั้งใจในการจ่ายหนี้ไหม ผิดนัดชำระหนี้บ่อยหรือเปล่า หรือไม่เคยจ่ายหนี้เลยสักครั้ง เพื่อให้รู้ว่าคุณมีเครดิตดีหรือเครดิตเสีย ซึ่งข้อมูลเครดิตจะเก็บ 2 ส่วนคือ

  • ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล หรือข้อมูลที่บ่งบอกว่าตัวตนคุณคือใคร เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขที่บัตรประชาชน 
  • ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติสินเชื่อ คือ ประวัติการชำระหนี้ต่างๆ รวมไปถึง สถานะเครดิตบูโร ที่จะแสดงให้เห็นว่าเครดิตของคุณตอนนี้อยู่ในสถานะอะไรบ้างโดยอ่านได้ในรายงานข้อมูลเครดิต โดยประวัติการสินเชื่อจะถูกจัดเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด 36 เดือน หรือ 3 ปี
รายงานข้อมูลเครดิต คืออะไร มี เลข สถานะเครดิตบูโร ด้วยไหม

รายงานข้อมูลเครดิต คืออะไร ทำไมถึงเกี่ยวกับ สถานะ เครดิตบูโร 

รายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) คือรายงานที่บริษัท เครดิตบูโร จำกัด จัดทำขึ้นจากข้อมูลสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรส่งเข้ามาไว้เป็นฐานข้อมูลกลาง ซึ่งข้อมูลเครดิตจะแสดงข้อมูลสินเชื่อ ประวัติการจ่ายสินเชื่อ และ ‘สถานะเครดิตบูโร’ โดยกลุ่มคนที่สามารถดูรายงานเครดิตได้มีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ

  • สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร
  • ผู้กู้สินเชื่อที่อยากเช็กสถานะเครดิตบูโร

สถานะเครดิตบูโร หรือรหัสเลขสถานะเครดิตบูโร คืออะไร 

สถานะเครดิตบูโร คือ ข้อมูลสถานะของบัญชีสินเชื่อที่จะแสดงในรายงานเครดิต ว่าสถานะเครดิตตอนนี้เป็นแบบไหน เช่น บัญชีสินเชื่อปกติ สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย โดยสถานะบัญชีเครดิตจะแสดงเป็นตัวเลข หลายคนเลยตั้งคำถามเหล่านี้ขึ้นมาว่า

  • เครดิตบูโร สถานะ 10 คืออะไร 
  • สถานะ เครดิตบูโร 11
  • เครดิตบูโรขึ้นเป็น 0 คืออะไร

เพราะถ้าคุณรู้ว่าสถานะเครดิตที่แสดงผลในรายงานเครดิต เวลาไปขอเช็คเครดิตบูโร ก็จะได้รู้ว่า ณ ตอนนี้สถานะเครดิตคุณคืออะไรดีไหม ติดเครดิตบูโร หรือควรแก้เครดิตบูโรด้วยหรือเปล่านั่นเองครับ

รหัสสถานะเครดิตบูโร เลขสถานะเครดิตบูโร 01 11 12 คืออะไร

ความหมายของ หมายเลขสถานะเครดิตบูโร หรือ รหัสสถานะเครดิตบูโร 

ถ้าเหตุผลในการเช็กเครดิตบูโรคือการรู้ สถานะเครดิตบูโร ว่าตอนนี้คุณเครดิตดีหรือไม่ดี ก็จำเป็นที่ต้องอ่านตัวเลขรหัสสถานะเครดิตบูโรให้ออก ซึ่งในเอกสารรายงานเครดิตจะมีสถานะเครดิตบูโรแจ้งไว้ชัดเจน ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจในเลขสถานะเครดิตบูโรในทันที นี่คือความหมายของรหัสสถานะเครดิตบูโรครับ

  • สถานะเครดิตบูโร 01 หรือ 010 คือ สถานะปกติ ไม่มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน ผ่อนจ่ายหนี้ตรงเวลา 
  • สถานะเครดิตบูโร 11 หรือ 011 คือ สถานะปิดบัญชี ลูกหนี้เคยค้างชำระหนี้ แต่เคลียร์หมดแล้ว
  • สถานะเครดิตบูโร 12 หรือ 012 คือ พักชำระหนี้ตามนโยบายของสมาชิก
  • สถานะเครดิตบูโร 20 หรือ 020 คือ มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน
  • สถานะเครดิตบูโร 21 หรือ 021 คือ มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน เพราะลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ 
  • สถานะเครดิตบูโร 30 หรือ 030 คือ อยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย
  • สถานะเครดิตบูโร 31 หรือ 031 คือ อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม
  • สถานะเครดิตบูโร 32 หรือ 032 คือ ศาลยกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ 
  • สถานะเครดิตบูโร 33 หรือ 033 คือ ปิดบัญชีเนื่องจากตัดหนี้สูญ
  • สถานะเครดิตบูโร 40 หรือ 040 คือ อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อเพื่อปิดบัญชี 
  • สถานะเครดิตบูโร 41 หรือ 041 คือ เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการ 
  • สถานะเครดิตบูโร 42 หรือ 042 คือ โอนหรือขายหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน
  • สถานะเครดิตบูโร 43 หรือ 043 คือ โอนหรือขายหนี้และชำระหนี้เสร็จสิ้น 
  • สถานะเครดิตบูโร 44 หรือ 044  คือ  โอนหรือขายหนี้ที่สถานะบัญชีปกติ

ติดเครดิตบูโร คืออะไร ติดเครดิตบูโร กี่ปี ทำยังไงถึงจะหาย?

ติดเครดิตบูโร คือ คนที่มีสถานะเครดิตบูโรไม่ปกติ มีบัญชีค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน หรือมีหนี้เสียที่ไม่ได้จ่ายกับสถาบันการเงิน เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้ผ่อนรถยนต์ ซึ่ง สถานะเครดิตบูโรในรายงานข้อมูลเครดิตจะเป็นสิ่งที่บอกว่าตอนนี้เครดิตบูโรคุณเป็นแบบไหนนั่นเอง 

โดยธนาคารแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า เครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลค้างชำระเอาไว้ 3 ปี (36 เดือน) คิดเป็นหนี้ 36 ก้อน เมื่อคุณทยอยจ่ายหนี้ที่ค้างชำระทุกๆ เดือนสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก็จะส่งประวัติการชำระเงินมาให้เครดิตบูโรบันทึกไว้ แล้วเคลียร์หนี้ออกทีละก้อน จาก 36 เหลือ 35 จาก เหลือ 34 จนกระทั่งเหลือ 0 ก้อน 

ดังนั้น เมื่อคุณใช้จ่ายหนี้ที่ค้างชำระหมดให้กลายเป็น 0 บาท สถาบันการเงินก็จะแจ้งปรับสถานะเครดิตบูโรของคุณให้กลายเป็น สถานะเครดิตบูโร 11 ซึ่งหมายถึงการปิดบัญชีเครดิตบูโร และข้อมูลเครดิตที่ถูกเก็บไว้ 3 ปีจะถูกลบออกไปทั้งหมดทันที ตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้

ผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากถูกไฟแนนซ์ยึดรถ ไม่อยาก ติดเครดิตบูโร ทำไงดี

ผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากติดเครดิตบูโร ควรทำยังไงดี? 

ส่งค่างวดรถไม่ไหว ผ่อนรถต่อไม่ไหว ทำไงดี  ไม่อยากจะติดเครดิตบูโร ไม่อยากให้สถานะเครดิตบูโรขึ้นว่าบัญชีค้างชำระ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดติดเครดิตบูโรขึ้นมาจริงๆ จะกลายเป็นคนติดแบล็กลิสต์จนกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เพราะสถาบันการเงินจะพิจารณาว่า คุณเป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ และไม่ควรก่อหนี้อะไรเพิ่มอีกต่อไปแล้ว

แต่ ‘ติดแบล็กลิสต์’ ไม่มีจริงในเครดิตบูโร เพราะเครดิตบูโรไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจในการขอสินเชื่อของคุณว่าควรให้กู้บ้านผ่านหรือกู้บ้านไม่ผ่าน แต่เครดิตบูโรเป็นบริษัทที่จัดเก็บข้อมูลเครดิตของคุณตามความเป็นจริง และทำหน้าที่จัดส่งรายงานเครดิตให้กับสถาบันการเงินและคุณเมื่อเกิดการขอเช็กเครดิตบูโรเพียงเท่านั้น 

และสำหรับใครที่เริ่มรู้ตัวว่า ผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากโดนไฟแนนซ์ยึดรถ ไปขายทอดตลาด เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องตามจ่ายหนี้ที่เหลืออยู่ดี อยากรู้ว่าต้อง ปิดเล่มรถยนต์ ปิดไฟแนนซ์ ที่ไหน ถ้าคิดไม่ออกให้ CarTrust ช่วยดูแลสิครับ เพราะ CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ให้คุณเลือกใช้บริการอยู่นะครับ

ดังนั้น ถ้าผ่อนรถต่อไม่ไหว กลัวติดเครดิตบูโร แล้วเลือก รีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มรถยนต์ กับ CarTrust ข้อดีคือ คุณจะสามารถประเมินวงเงินสินเชื่อ และรู้เงินส่วนต่างคงเหลือได้ด้วยตัวเอง เพียงกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เว็บไซต์ก็จะประมวลผลให้ทันที คุณเลยสามารถวางแผนการเงินให้ตัวเองได้ยังไงบ้าง

สรุป

ติดเครดิตบูโรคือคนที่สถานะเครดิตบูโรไม่ปกติ เพราะค้างชำระกับสถาบันการเงิน ซึ่งการติดเครดิตบูโรจะถูกเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด 36 เดือน (3ปี) เมื่อทยอยจ่ายหนี้ที่ค้างไปเรื่อยๆ จนหมด สถานะเครดิตบูโรจะกลับมาเป็นปกติคือบัญชีไม่ค้างชำระหนี้นั่นเอง โดยถ้าคุณกำลังผ่อนรถอยู่ แล้วรู้สึกผ่อนต่อไม่ไหว ไม่อยากให้มีประวัติเป็นเครดิตบูโร อยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด หนึ่งวิธีที่จะแก้ปัญหาได้คือ รีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มบัญชี นอกจากจะช่วยปิดหนี้รถยนต์ ยังทำให้คุณมีเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก : คลินิกแก้หนี้,ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ, ncb.co.th, เครดิตบูโร

อยากลดดอกเบี้ยรถ ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ยังผ่อนไม่หมดที่ไหนดีนะ?

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ถือเป็นทางออกที่ดีของคนที่กู้ซื้อสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และเริ่มจ่ายค่างวดรถยนต์ไปได้สักพักแล้วเข้าสู่สถานะคนผ่อนรถไม่ไหวอาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าา ค่างวดรถยนต์สูง ดอกเบี้ยรถยนต์สูง เลยเกิดความคิดต่อไปว่า ถ้าค้างค่างวดรถยนต์เพราะผ่อนต่อไม่ไหว แล้วปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปคงไม่ใช้เรื่องดีแน่ๆ เพราะสุดท้ายก็ต้องตามใช้หนี้ก้อนที่เหลืออยู่ดี วิธีเดียวคือ ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เพื่อปรับดอกเบี้ยผ่อนรถ แต่ก่อนจะ เปลี่ยนไฟแนนซ์รถยนต์ หรือเอารถเข้าไฟแนนซ์ที่ใหม่ มาดูกันครับว่าจะต้องรู้อะไรบ้าง CarTrust มีคำตอบมาให้!

วิธี ลดดอกเบี้ยรถ ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ รีไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ยังผ่อนไม่หมด

อยากลดดอกเบี้ยรถยนต์ ย้ายไฟแนนซ์รถ ที่ยังผ่อนไม่หมด ได้ไหม?

จริงๆ แล้ววิธีหนึ่งที่อยากลดดอกเบี้ยรถยนต์คือ ‘ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์’ โดยดอกเบี้ยค่าผ่อนรถจะลดสูงสุด 50% ตามสัญญาสินเชื่อที่ระบุไว้ว่า ‘ถ้าผู้เช่าต้องการชำระค่าเช่าซื้อรถทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี ผู้ให้เช่าต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อรถที่ยังไม่ถึงกำหนดจ่าย’ นั่นเอง 

แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินก้อนโตไปปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์ ถ้าหากมีเงินก้อนจริงๆ คงไม่ต้องมาเครียดเรื่องผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากถูกบริษัทไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลา เพราะต้องตามใช้หนี้อีกตั้งหลายก้อน แต่ทุกปัญหามีทางออก ถ้าอยากลดดอกเบี้ยค่าผ่อนรถ ก็แค่ทำเรื่อง ‘ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์’ ได้เลย 

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ยังผ่อนไม่หมด คืออะไร

การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด คือ การนำรถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ กู้เงินก้อนใหม่เพื่อปิดหนี้รถยนต์ก้อนเก่าด้วยการใช้รถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือที่เรียกกันว่า ‘การรีไฟแนนซ์รถยนต์’ โดยคุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะรีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันการเงินใหม่ หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันการเงินเก่า ซึ่งหลายคนก็ทำเรื่องย้ายไฟแนนซ์รถยนต์จาก Non-Bank มาเข้าธนาคารเพราะดอกเบี้ยรถยนต์ที่ถูกกว่านั่นเอง

การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ จะช่วยอะไรคนที่ผ่อนรถต่อไม่ไหว บ้าง?​

ใครที่กำลังผ่อนรถต่อไม่ไหว เพราะเงินช็อตหรือเงินไม่พอใช้ การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ จะช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินหมุนได้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ โดยสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้หลังย้ายไฟแนนซ์รถยนต์คือ 

  • ช่วยลดดอกเบี้ยค่าผ่อนรถ : เนื่องจากรถยนต์คันที่นำไปย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ได้ผ่อนจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว เงินก้อนใหม่ที่กู้มาจึงมียอดน้อยกว่าเงินก้อนแรก ทำให้ดอกเบี้ยน้อยลง
  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน : การย้ายไฟแนนซ์รถด้วยการกู้เงินก้อนใหม่ ก็ทำให้คุณไม่ต้องแบกรับค่างวดรถในจำนวนที่สูงอีกต่อไปแล้ว เพราะเงินก้อนใหม่มียอดกู้น้อยกว่าเงินก้อนเก่า 
  • ช่วยให้มีเงินก้อนไปหมุนต่อ : เมื่อย้ายไฟแนนซ์รถยนต์แล้ว จะทำให้คุณได้เงินส่วนต่างจากยอดค่างวดรถสุทธิ ดังนั้น การรีไฟแนนซ์รถยนต์เลยทำให้คุณมีเงินก้อนไปใช้ชีวิตต่อไปได้
ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์ ลดดอกเบี้ย ที่ไหนดี

4 เรื่องต้องรู้ก่อน ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อลดดอกเบี้ยผ่อนรถ!

ในประเทศไทยมีหลายสถาบันการเงินที่ให้บริการเรื่องย้ายไฟแนนซ์รถยนต์เยอะมากๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ลูกหนี้ที่กำลังผ่อนรถอยู่ว่าจะเลือก ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ไหนดีที่สุด แต่ก่อนจะไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อลดดอกเบี้ย มาดูก่อนว่า คุณได้เตรียมความพร้อมของรถยนต์ที่จะเอาเข้าไฟแนนซ์แล้วหรือยังกับ 4 เรื่องต้องรู้ คือ

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์

ถ้าคุณไม่รู้ว่ายอดปิดหนี้รถยนต์เหลืออยู่เท่าไหร่ คุณใช้รถยนต์ยี่ห้ออะไร ปีไหน รุ่นอะไร ทางสถาบันการเงินที่ให้บริการ ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ก็จะไม่สามารถประเมินราคาเงินกู้ให้ได้เลย เพราะการประเมินเงินกู้ เมื่อทำเรื่องย้ายไฟแนนซ์รถยนต์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณานั่นเอง ซึ่งสมมติว่าในอนาคตเมื่อทราบข้อมูลตรงนี้แล้ว ก็สามารถนำไปข้อมูลเหล่านี้ไป ประเมินเงินย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ได้ที่ CarTrsut เลยนะครับ 

จริงไหมที่ การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ยอดผ่อนต้องเกิน 50% 

ถ้าผ่อนรถต่อไม่ไหว แล้วอยากจะย้ายไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อปรับดอกเบี้ยให้น้อยลง เพื่อให้การเงินที่เคยติดขัดคล่องตัวขึ้นบ้าง แต่หลายคนก็เกิดคำถามขึ้นว่า อยากย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ต้องมียอดผ่อนรถยนต์เกิน 50% จริงไหม แล้วยอดผ่อน 50% คืออะไรบ้าง มีคำตอบมาให้ครับ

คำว่ายอดผ่อน 50% ไม่ได้หมายถึงว่า ยอดผ่อนรถทั้งหมด 50 งวด แต่ผ่อนมาแล้ว 25 งวด แต่หมายถึง ยอดผ่อนต้องเกิน 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด ต่อให้คุณผ่อนรถยนต์มาแค่ 2 ปี แต่วางเงินดาวน์เยอะ แล้วยอดผ่อนเกิน 50% ของหนี้ทั้งหมด ก็สามารถทำเรื่องย้ายรถไฟแนนซ์รถยนต์ได้ครับ 

ซึ่งการที่ยอดผ่อนรถยนต์เกินกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด นอกจากจะทำให้สถาบันการเงินรู้ว่าคุณเป็นคนมีวินัยในการผ่อนค่างวดรถ เลยทำให้การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์มีโอกาสผ่านสูงแล้ว ยังจะทำให้คุณมีเงินก้อนเหลือจากการย้ายไฟแนนซ์รถยนต์อีกด้วย

แต่ในทางกลับกันถ้ามียอดผ่อนรถยนต์น้อยกว่า 50% ก็สามารถรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยเท่านั้นครับ แต่จะไม่มีเงินก้อนส่วนต่างเหลือเอาไว้ใช้จ่ายนั่นเอง

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ต้องมีคนเซ็นค้ำประกันไหม

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ยังผ่อนไม่หมด ต้องมีคนเซ็นค้ำประกันด้วยไหม

การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ไม่ต่างอะไรกับการกู้เงินก้อนใหม่มาปิดเงินก้อนเก่า คนที่ผ่อนรถยนต์ไม่ไหว แล้วอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ คงกังวลใจว่าจะต้องหาคนมาเซ็นค้ำประกันด้วยหรือเปล่า  คำตอบคือ การเอารถเข้าไฟแนนซ์ ‘ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน’ ก็ได้เพราะการย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ใช้ ‘เล่มทะเบียนรถยนต์’ เป็นทรัพย์สินค้ำประกันเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงใช้ฐานข้อมูลอื่นๆ ของคุณในการอนุมัติ เช่น ประวัติการชำระเงิน ฐานเงินเดือน เอกสารที่ใช้รีไฟแนนซ์รถยนต์ เป็นต้น ดังนั้น คนเซ็นค้ำประกันไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ครับ 

ผ่อนรถไม่ไหว ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนหมดไปที่ธนาคารไหนดี?

 การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ดี คุณจะต้องได้ลดดอกเบี้ยรถยนต์ที่ดีที่สุด ซึ่งแต่ละธนาคารต่างก็ออกโปรโมชั่นเพื่อที่จะลดค่างวดรถยนต์ ดอกเบี้ยรถยนต์ที่ถูกที่สุดให้คุณไปใช้บริการ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าคุณสามารถเห็นข้อมูลสินเชื่อที่ตอบโจทย์กับการย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ของคุณในครั้งนี้มากที่สุด 

ซึ่งวิธีเลือกว่าจะ ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่ไหนดี ธนาคารอะไรดี ก็ไม่ยากเลย เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ Cartrust  โดยการเปรียบเทียบวงเงินสินเชื่อในเว็บไซต์มีให้เลือกด้วยกัน 3 ประเภท คือ 

เพียงกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ให้ครบ หน้าเว็บไซต์ก็จะแสดงข้อสรุปให้เลยว่า สถานการณ์การผ่อนรถยนต์ไม่ไหวของคุณในตอนนี้ ควรย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ไปที่ธนาคารถึงจะดีที่สุด ด้วยการแสดงข้อมูลสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ให้คุณเลือก เพื่อที่คุณจะได้ลดภาระดอกเบี้ยผ่อนรถยนต์ และงวดผ่อนรถยนต์ได้ตามใจต้องการ

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า ตอนนี้ผ่อนรถไม่ไหว อยากรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อม ปิดเล่มรถยนต์ หรือ อยาก ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ อยากรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดหนี้รถยนต์ จะทำยังไงดี คำตอบคือ CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ ปิดไฟแนนซ์ ให้ครับ เท่านี้ คุณก็จะหมดภาระรถยนต์ที่หนักหนา ได้จ่ายดอกเบี้ยรถยนต์ที่น้อยลง และยังได้เงินก้อนส่วนต่างมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว! 

สรุป

ผ่อนรถต่อไม่ไหว อยากย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อลดดอกเบี้ยรถยนต์ และลดค่างวดรถยนต์ให้ถูกลง ก็มาใช้บริการได้ที่ CarTrust เพราะที่นี่มีสินเชื่อของหลายๆ ธนาคารให้คุณเลือกใช้ได้แบบตอบโจทย์เลยนะครับ!

อ่านด่วน! ค้างค่างวดรถได้กี่วัน กี่เดือน ถึงจะไม่โดนไฟแนนซ์ยึดรถ

ส่งค่างวดรถไม่ไหว ยังไงก็เป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ครับถึงแม้ว่าคุณจะวางแผนการเงินไว้รัดกุมแค่ไหน แต่บางครั้งก็มีค่าใช้จ่ายเร่งด่วนที่ทำให้สภาพคล่องทางการเงินติดขัดนั่นเอง และคงเป็นเรื่องดีถ้ามีเงินสำรองฉุกเฉินไปจัดการเรื่องเงินที่ติดขัด แต่คงเป็นเรื่องแย่ถ้าไม่มีเงินก้อนนั้น จนส่งผลกระทบกับค่างวดรถที่ต้องจ่ายในทุกๆ เดือน คนที่ ผ่อนรถต่อไม่ไหว คงเกิดคำถามขึ้นว่า ค่างวดรถจ่ายช้าได้กี่วัน ค้างค่างวดรถ 1 เดือนเป็นไรไหม ค้างค่างวดรถ ได้กี่งวด ถึงจะโดนไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาด CarTrust มีคำตอบให้ครับ!

ค้างค่างวดรถ จะโดนไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาดไหม 2567

4 เรื่องที่คน ค้างค่างวดรถ ส่งค่างวดรถไม่ไหว จำเป็นต้องรู้ ก่อนโดนไฟแนนซ์ยึดรถ!

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท เครดิตบูโร แห่งชาติ ออกมาให้ข้อมูลว่า หนี้รถยนต์กำลังจะเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (หนี้เสียหรือหนี้ NPL) ที่มีการค้างค่างวดรถ ไม่มีเงินส่งค่างวดรถ ให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยให้กู้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยหลายคนถูกลดเงินเดือน ทำให้เข้าข่ายคนผ่อนรถต่อไม่ไหว ซึ่งถ้าคุณคือกลุ่มที่ค้างค่างวดรถอยู่ นี่คือเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ก่อนจะโดนไฟแนนซ์ยึดรถไปครับ อย่างน้อยจะได้หาวิธีแก้ไขทันก่อนกลายเป็นหนี้เสีย 

ค้างค่างวดรถ ได้กี่วัน กี่งวด ก่อนจะโดนไฟแนนซ์ยึดรถขายทอดตลาด

ไม่มีใครอยากเป็นคนเครดิตเสียอยู่แล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดหมุนเงินไม่ทัน จนทำให้ต้องผ่อนรถต่อไม่ไหว หาเงินมาไม่ทัน รู้ไหมครับว่าสามารถ ค้างค่างวดรถยนต์ได้นานสูงสุด 90 วัน หรือ 3 เดือน หรือ 3 งวด 

แต่ถ้าหลังจากนั้นไฟแนนซ์รถจะทวงถามหนี้กับคุณในเดือนที่ 4 หากยังไม่มีเงินมาจ่ายค่างวดรถ ก็จะถูกไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาดในที่สุด ดังนั้น ต้องบริหารการจ่ายค่างวดรถให้ดี อย่าให้เกินไปกว่านี้นะครับ

แต่ CarTrust ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่เราเป็นลูกหนี้รถยนต์ที่ค้างค่างวดรถ ก็ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ คือถ้าไฟแนนซ์รถยนต์เข้ามายึดรถก่อนเวลาที่กำหนดไว้ ไฟแนนซ์รถยนต์จะถือว่าทำผิดกฎหมายคือ

ดังนั้น ต่อให้เราเป็นหนี้รถยนต์ ค้างค่างวดรถยนต์กับไฟแนนซ์รถยนต์อยู่ ก็ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ครับ

ถ้า ส่งค่างวดรถไม่ไหว ค้างค่างวดรถ 3 งวด จ่ายเข้าไป 1 งวดก่อนได้ไหม จะเป็นอะไรไหม?

อย่างที่บอกไปว่าคุณสามารถค้างค่างวดรถได้นานถึง 3 งวด รวมระยะเวลาก่อนโดนไฟแนนซ์ยึดรถอีก 1 งวดกลายเป็น 4 งวด แต่หลายคนก็ตั้งคำถามว่า ส่งค่างวดรถไม่ไหว ทำไงดี ถ้าค้างค่างวดรถ 3 งวด จ่ายเข้าไป 1 งวดก่อนได้ไหม คำตอบคือ ‘ได้’ ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า ‘การเลี้ยงงวด’ เพราะไม่อยากโดนไฟแนนซ์ยึดรถไป ถือเป็นวิธีแก้ไขเรื่องผ่อนรถต่อไม่ไหวได้ฉลาด แต่ก็ยังมีข้อเสียแลกมาด้วยเหมือนกันนะครับ 

เพราะในขณะที่จ่ายเงินค่างวดรถแบบเลี้ยงงวด สิ่งที่จะตามมาคือค่าติดตามทวงถามหนี้และค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขของไฟแนนซ์รถ เนื่องจากคุณยังค้างชำระค่างวดรถ 1 งวด หรืออีกหลายงวดอยู่ ซึ่งไฟแนนซ์รถยนต์จะยังไม่ให้จ่ายเงินก้อนนี้ทันที แต่จะถูกรวมในตอนสุดท้ายที่ทยอยค่างวดรถไปจนหมดแล้ว ดังนั้น การเลี้ยงงวดรถยนต์มีหนี้ถึง 3 ก้อนที่ต้องจ่ายคือ หนี้รถยนต์ ดอกเบี้ยรถยนต์​ และค่าทวงหนี้และค่าธรรมเนียม ครับ

ค้างค่างวดรถยนต์ ถูกไฟแนนซ์ยึดรถขายทอดตลาด จะเสียค่าอะไรบ้าง

ค้างค่างวดรถยนต์ ถูกไฟแนนซ์ยึดรถขายทอดตลาด จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

หลังจากการต่อสู้ให้สภาพคล่องทางการเงินกลับมาขับเคลื่อนได้คล่องตัว แต่ทนไม่ไหวแล้ว เลยปล่อยใจสบายๆ กลายเป็นคนค้างค่างวดรถยนต์ จนถูกไฟแนนซ์เข้ามายึดรถยนต์ไปขายทอดตลาด ยังมีสิ่งที่คุณต้องเจอด้วยกัน 2 ขั้นตอน โดย CarTrust จะเรียงลำดับเหตุการณ์ตอนถูกไฟแนนซ์ยึดรถให้เห็นภาพเองครับ

ก่อนถูกไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาด จะถูกทวงถามหนี้

เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย เป็นหนี้แล้วไม่จ่ายก็ต้องโดนทวงถามหนี้ นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว หลังจากที่คุณปล่อยค้างค่างวดรถยนต์ไป 3 งวด เมื่อเข้าสู่งวดที่ 4 ที่ไฟแนนซ์รถยนต์เข้ายึดรถ คุณจะถูกทวงถามหนี้ ดังนี้

  • สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้จะโทรมาทวงถามค่างวดรถยนต์จากคุณ
  • สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้จะส่งจดหมายทวงหนี้มาที่บ้านของคุณ 
  • สถาบันการเงินส่งเรื่องไปยังสำนักกฎหมายให้มาทวงถามหนี้กับคุณ
  • สำนักกฎหมายทำเรื่องฟ้องร้องคุณเรื่องหนี้รถยนต์จนขึ้นโรงขึ้นศาล

และนี่เป็นแค่ขั้นแรกของการค้างค่างวดรถ แล้วปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาดเท่านั้นนะครับ

ค้างค่างวดรถ ส่าค่างวดรถไม่ไหว ถูกไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาด ถือว่าปิดหนี้รถยนต์เลยไหม

มีหลายคนเข้าใจไปว่า ค้างค่างวดรถ เพราะผ่อนรถไม่ไหว ก็แค่ปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปก็จบแล้ว ยังไงบริษัทไฟแนนซ์ก็จะนำรถขายทอดตลาด ได้เงินมาก็มาปิดหนี้รถยนต์ที่เคยค้างค่างวดรถยนต์เอาไว้ จริงๆ มันก็ใช่ครับ แต่ว่าไม่ถูกต้อง 100% CarTrust ต้องบอกว่า เงินขายรถทอดตลาดไม่ได้สูงพอที่จะปิดหนี้รถยนต์ได้ เพราะรถขายทอดตลาดเป็นราคาที่มีราคาต่ำมาก จนทำให้คุณมีหนี้ก้อนอื่นๆ ตามมาด้วย คือ

  • ค่าส่วนต่างจากหนี้รถยนต์ที่ยังปิดไม่หมด 
  • ค่าติดตามทวงถามหนี้ 
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ 

ดังนั้น ถูกไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาด ไม่ใช่ การปิดหนี้รถยนต์ เพราะยังมีหนี้อื่นๆ ให้ตามจ่ายอยู่แม้ไฟแนนซ์รถยนต์จะขายรถทอดตลาดจนได้เงินไปแล้วก็ตาม

ผ่อนรถไม่ไหว ถ้า ค้างค่างวดรถ จะติดเครดิตบูโรไหมนะ?

ความกังวลของคนผ่อนรถไม่ไหว คือถ้าค้างค่างวดรถ จะติดเครดิตบูโรหรือเปล่า เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องการขอกู้สินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต เนื่องจากติดเครดิตบูโรและถูกขึ้นบัญชีดำ หรือติดแบล็คลิสต์ เรื่องนี้ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนนะครับว่า เครดิตบูโร ไม่ได้มีสิทธิ์ขึ้นบัญชีดำให้ผู้กู้สินเชื่อคนไหนทั้งนั้น

เพราะเป็นแค่บริษัทตัวกลางที่เก็บข้อมูลเครดิตของผู้กู้ โดยจะเก็บข้อมูล 3 ปีตามที่สถาบันการเงินส่งข้อมูลมาให้นั่นเอง ดังนั้น การผ่อนรถไม่ไหวแล้วค้างค่างวดรถ ไม่ถือว่าติดเครดิตบูโร แต่จะถูกขึ้นบัญชีดำจากสถาบันการเงิน เนื่องจากไม่ชำระค่างวดรถตามเงื่อนไขครับ

ส่งค่างวดรถไม่ไหว ไม่มีเงินผ่อนรถ ทำไงดี

ไหวตัวให้ทัน! ส่งค่างวดรถไม่ไหว ไม่มีเงินผ่อนรถ ทำไงดี

ถ้าเริ่มรู้ตัวแล้วว่าในอนาคตอันใกล้นี้ คุณจะกลายเป็นคนผ่อนรถไม่ไหว ส่งค่างวดรถไม่ไหว เพราะไม่มีเงินผ่อนรถ ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหานี้ก่อนที่จะค้างค่างวดรถจนปล่อยให้เป็นหนี้เสีย ถ้ายังมีใจอยากจะผ่อนรถยนต์ต่อ ก็ติดต่อกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อขอประนอมหนี้ 

ดังนั้น ถ้ารู้สึกว่าหนี้รถยนต์ที่ผ่อนอยู่มันค่อนข้างหนัก แล้วรู้ตัวว่าจะผ่อนรถต่อไม่ไหว ก็มาทำเรื่องจัดไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดบัญชีเล่มรถยนต์จากที่เก่า หรือ เอารถเข้าไฟแนนซ์ ได้เลย เพื่อมาผ่อนค่างวดรถใหม่ในดอกเบี้ยที่ถูกลง เป็นทางออกที่ดีที่สุด! 

โดยวิธีนี้จะช่วยให้ปิดหนี้รถยนต์ที่คุณค้างค่างวดรถเอาไว้ ไม่ว่าจะค้างค่างวดรถ 1 เดือน หรือค้างค่างวดรถยนต์ 3 เดือนให้หนี้กลายเป็นศูนย์ พร้อมทั้งมีเงินก้อนไว้ให้คุณใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย ซึ่งเงินส่วนต่างของการรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มรถยนต์ สามารถนำไปเป็น ค่ารักษาพยาบาล ลงทุนทำธุรกิจ ฯลฯ 

ซึ่ง CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมปิดเล่ม หรือ ปิดเล่มรถยนต์ ข้อดีก็คือ ไม่จำกัดวงเงินในการปิดเล่ม แถมยังให้คุณได้รับเงินส่วนต่างทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติ ดังนั้น ถ้าคุณอยากปิดหนี้รถยนต์จากที่เก่า​เพราะไม่อยากจะเป็นคนค้างค่างวดรถอีกต่อไป มารีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อมปิดเล่มที่ CarTrust ได้เลยนะ! 

สรุป

ส่งค่างวดรถไม่ไหว สามารถค้างค่างวดรถได้ 90 วัน 3 งวดหรือ 3 เดือน ก่อนที่จะโดนไฟแนนซ์เข้ายึดรถไปขายทอดตลาดในเดือนที่ 4 โดยการค้างค่างวดรถสามารถจ่ายเลี้ยงวดไปเรื่อยๆ ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับค่าติดตามทวงถามหนี้ หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ แล้วถ้าคุณรู้สึกว่าผ่อนรถต่อไม่ไหว สามารถใช้รีไฟแนนซ์รถยนต์แล้วปิดบัญชีเล่มรถยนต์จากที่เก่าเพื่อมาผ่อนค่างวดรถที่ใหม่ได้เลย นอกจากจะช่วยปิดเล่มรถยนต์จากที่เก่า แล้วมาผ่อนค่างวดรถกับที่ใหม่ในดอกเบี้ยลดน้อยลงแล้ว ยังทำให้คุณมีเงินส่วนต่างเป็นเงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย 

เป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ปิดหนี้ยังไง ให้กู้บ้านผ่าน?

การมีบ้านสักหลังน่าจะเป็นความฝันของใครหลายคน ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรหรือเงินเดือนเท่าไหร่ แต่ปัญหาใหญ่อยู่ตรงที่มีหนี้บัตรเครดิตและหนี้รถยนต์ให้จ่ายอยู่ทุกเดือนเลยทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เลยเกิดคำถามว่า เป็นหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถอยู่ กู้ซื้อบ้านได้ไหม ทำยังไงให้กู้ซื้อบ้านผ่าน ดังนั้น หากคุณกำลังเจอทางตัน อยากได้ทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ CarTrust มีวิธีปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ เพื่อกู้ซื้อบ้านมาฝากครับ

ทำไม กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน กู้ซื้อบ้านยังไง ให้ผ่าน

จริงไหม? ภาระหนี้เยอะเกิน 40% รายได้ เช่น เป็นหนี้บัตรเครดิต เลย กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน 

เรื่องนี้คือเรื่องจริงครับ ถ้าหากคุณมีภาระหนี้สินเกินกว่า 40% ของรายได้สุทธิ มีโอกาสสูงมากที่จะกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เพราะสถาบันการเงินที่คุณไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน จะพิจารณาว่า ‘คุณไม่มีความสามารถในการชำระหนี้สิน’ เมื่อสุขภาพทางการเงินไม่คล่องมือ สถาบันการเงินก็มองว่าคุณมีโอกาสที่จะผ่อนค่าบ้านไม่ไหว

แบก ภาระหนี้เยอะ เกินกว่า 40% ของรายได้ คืออะไร? 

ทุกคนควรต้องรู้นะครับว่าในแต่ละเดือนคุณกำลังแบกรับภาระหนี้สินอยู่จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งการเป็นหนี้ดีต้องเป็นหนี้ไม่เกิน 40% ของรายได้สุทธิ เพราะถ้าเกินกว่านั้นจากหนี้ดีก็จะกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด ส่งผลให้สุดท้ายแล้วคุณอาจติดเครดิตบูโร หรือติดแบล็คลิสกับธนาคารได้ แน่นอนว่าส่งผลให้ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน 

โดยวิธีวัดว่าหนี้ดีที่มีในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ปลอดภัยไหม จะเรียกว่า อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวม (Debt to Income Ratio : DTI) เป็นวิธีประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเองเบื้องต้น ว่าตอนนี้ที่คุณเป็นหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถอยู่ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ หากหนี้ดีเกินกว่า 40% ก็จะได้หาวิธีปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดหนี้รถยนต์ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ เป็นต้น

ภาระหนี้สินเยอะ หนี้รถ เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่อยากกู้ซื้อบ้าน

อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวมไม่เกิน 40% ต้องคิดยังไง? 

หลายคนๆ เป็นหนี้บัตรเครดิต รถยังผ่อนไม่หมด เลยกู้บ้านไม่ผ่าน เพราะไม่ได้ประเมินความเสี่ยงให้ตัวเองก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน ดังนั้น ต้องสำรวจหนี้ตัวเองด้วย ซึ่งสูตรในการคิด DTI คือ ‘รายได้ต่อเดือน x 40% = จำนวนหนี้สินที่สามารถผ่อนได้’ 

สมมติ รายได้ต่อเดือน 30,000 บาท เมื่อคำนวณตามสูตรจะมีหนี้ได้ทั้งหมด ‘30,000 x 40% = 12,000 บาท’ 

ในลำดับถัดไปให้คุณเขียนรายละเอียดหนี้สินที่มีอยู่เพื่อคิดว่าปัจจุบันนี้มีหนี้ดีเกิน 40% แล้วหรือยัง โดยสมมติว่า คุณกำลังผ่อนรถยนต์ และมีหนี้บัตรเครดิตให้จ่ายรายเดือน ดังนี้ 

  • หนี้ผ่อนรถยนต์ต่อเดือน 12,000 บาท
  • หนี้บัตรเครดิตต่อเดือน 5,000 บาท

เมื่อนำหนี้ทั้งหมดมารวมกันจะคิดเป็น 12,000 + 5,000  = 17,000 บาท แต่อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวมไม่เกิน 40% ของคุณคือ 12,000 บาท เลยสรุปได้ว่า เป็นหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถอยู่ ทำให้คุณ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากว่าหนี้มากกว่าวงเงินที่จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้แล้ว หากสถาบันการเงินปล่อยกู้ให้มีโอกาสเป็นหนี้เสีย

กู้สินเชื่อรวมหนี้ ปิดไฟแนนซ์รถ ปิดหนี้บัตรเครดิต ที่ไหนดี

กู้สินเชื่อรวมหนี้ ถึง เป็นหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถอยู่ ก็กู้ซื้อบ้านได้! 

สินเชื่อรวมหนี้  คือ การรวมหนี้ที่เป็นอยู่รวมเป็นก้อนเดียว เมื่อได้เงินก้อนก็นำไปปิดหนี้ทั้งหมดที่ค้างเอาไว้ เช่น หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต แล้วค่อยไปผ่อนจ่ายหนี้ก้อนเดียวกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้ โดยเงินกู้ก้อนใหม่ที่ได้มาจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ทำให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงิน และมีวงเงินในการกู้ซื้อบ้านนั่นเอง

3 รูปแบบในการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อ ปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดหนี้รถยนต์

ในเมื่ออัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวมของคุณเกิน 40% ก็ต้องหาวิธีกำจัดครับ ซึ่งสำหรับหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้รถยนต์ที่กำลังผ่อนอยู่ สามารถทำได้ด้วยการปิดหนี้ทั้งหมด แต่มันติดปัญหาก็ตรงที่ ตอนนี้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปปิดหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้รถยนต์ แต่เรื่องนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้วิธีรวมหนี้เป็นก้อนเดียว

  • การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกับสถาบันการเงินเดียวกัน เช่น มีหนี้บัตรเครดิตและหนี้รถยนต์ในสถาบันการเงินเดียวกัน เลยทำเรื่องรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกับสถาบันการเงินเดิม 
  • การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวระหว่างสถาบันการเงิน เช่น โอนหนี้บัตรเครดิตจากสถาบันการเงิน A มารวมกับหนี้รถยนต์จากสถาบันการเงิน B
  • การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ เช่น โอนหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงิน A และหนี้รถยนต์ของสถาบันการเงิน B ไปที่ธนาคาร C เพื่อกู้สินเชื่อรวมหนี้ 

ปิดหนี้แล้วซื้อบ้านได้ไหม ธนาคารไหนรับปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดไฟแนนซ์รถบ้าง? 

อ่านถึงตรงนี้คุณคงจะเตรียมตัวค้นหาแล้วว่า ธนาคารไหนรับปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ บ้าง จริงๆ ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนไกลเลยครับ เพราะ CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ปิดเล่มรถยนต์ รวมไปถึง ปิดภาระหนี้ ให้บริการอยู่ด้วย โดยมีพันธมิตรจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ มากมาย เช่น

  • ธนาคารกรุงศรี
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารเกียรตินาคิน
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารธนชาตทหารไทย
  • เงินติดล้อ
  • สมหวังเงินสั่งได้ 
  • ไอลิส
  • ควิกลิซซิ่ง
  • เอสจี แคปปิตอล
  • เงินไชโย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถ เปรียบเทียบสินเชื่อรวมหนี้ ได้อีกด้วย ว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ ดอกเบี้ยต่อเดือนกี่บาท และยอดจ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ เพื่อประกอบการตัดสินใจการรวมหนี้อีกด้วยนะครับ

สรุป 

และนี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ CarTrust เอามาฝากกันครับ จะเห็นได้ว่า เป็นหนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถอยู่ ก็ กู้ซื้อบ้านผ่านได้ เพียงเช็กอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวมไม่ให้เกิน 40% แต่ถ้าคำนวณหนี้ดีมาแล้วเกิน 40% แค่ กู้สินเชื่อเพื่อรวมหนี้ ปิดหนี้บัตรเครดิต ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ที่ CarTrust เพื่อให้มีวงเงินในการกู้ซื้อบ้านนั่นเอง 

Q&A เอารถเข้าไฟแนนซ์ คืออะไร ได้เงินกี่บาท ใช้เอกสารอะไรบ้าง

อากาศเมืองไทยที่ว่าร้อน ก็ยังไม่สู้คุณที่เป็นคนร้อนเงิน เนื่องจากตอนนี้หมุนเงินไม่ทัน เงินช็อต เงินไม่พอใช้ เลยกำลังมองหาแหล่งกู้เงินด่วนทันใจอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะกู้เงินด่วนพร้อมใช้ที่ไหนดี วันนี้ CarTrust มีวิธี กู้เงินด้วยรถยนต์ มาฝากกันครับ นั่นคือ “เอารถเข้าไฟแนนซ์” ว่าแต่ เอารถเข้าไฟแนนซ์ คืออะไร ได้เงินเลยไหม กี่วันได้เงิน ใช้เอกสารอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาให้คุณแล้วครับ

เอารถเข้าไฟแนนซ์ จัดไฟแนนซ์รถยนต์ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ คืออะไร

เอารถเข้าไฟแนนซ์ คืออะไร ใช่การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ไหมนะ?

เอารถเข้าไฟแนนซ์ คือ การนำรถยนต์ไปกู้เงินด่วนกับสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้เงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือปรับสภาพคล่องทางการเงินให้หมุนคล่องขึ้น โดยการเอารถเข้าไฟแนนซ์มี 2 รูปแบบ คือ

  • ผ่อนรถยนต์หมดแล้วเลยเอารถเข้าไฟแนนซ์ จะเรียกว่า กู้สินเชื่อรถยนต์ จำนำทะเบียนรถยนต์
  • ผ่อนรถยนต์ยังไม่หมดอยากเอารถเข้าไฟแนนซ์ จะเรียกว่า การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด

ทั้ง 2 วิธีเป็นตัวเลือกสำหรับคนร้อนเงิน อยากเปลี่ยนรถเป็นเงิน แต่ข้อสังเกตก็คือ สำหรับคนที่ยังผ่อนรถยนต์ไม่หมด ผ่อนรถอยู่ หรือผ่อนรถไม่ไหว แล้วนำเอารถเข้าไฟแนนซ์ นอกจากจะได้เงินก้อนมาใช้ ยังมีข้อดีคือ 

  • ยืดระยะเวลาการผ่อนรถยนต์ให้นานขึ้น
  • ค่างวดรถยนต์ที่ต้องผ่อนรถต่อเดือนปรับจำนวนให้น้อยลง
  • ดอกเบี้ยรถยนต์ถูกลงกว่าตอนกู้ซื้อรถยนต์

แต่การเอารถเข้าไฟแนนซ์ ก็ยังมีหลายๆ คนนะครับที่เข้าใจผิดว่าเหมือนกับ การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย! การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ คือการกู้เงินเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อนมากพอที่จะไปซื้อรถยนต์ได้ในครั้งเดียว โดยคุณก็ต้องผ่อนค่างวดรถให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เป็นงวดๆ นั่นเอง

เอารถเข้าไฟแนนซ์ ได้เงินกี่บาท ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ตอบคำถามคาใจ! ที่คนร้อนเงินต้องรู้ ก่อนเอารถเข้าไฟแนนซ์

CarTrust ถือโอกาสนี้ในการรวบรวมคำถามสุดคาใจของคนร้อนเงิน ที่เริ่มหมุนเงินไม่ทัน เงินไม่พอใช้ จนทำให้ผ่อนรถยนต์ต่อไม่ไหว เลยคิดอยากจะเอารถเข้ารีไฟแนนซ์ เพราะจะได้เงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น เพื่อให้คุณเจออุปสรรคในการนำรถเข้าไฟแนนซ์ที่น้อยที่สุด นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้จริงๆ ครับ 

เอารถเข้าไฟแนนซ์ หรือ รีไฟแนนซ์รถยนต์ ต้องเป็นใครได้บ้าง

ต่อให้คุณเป็นคนร้อนเงิน แล้วอยากเอารถเข้าไฟแนนซ์ แต่ก็มีเงื่อนไขที่สถาบันการเงินต่างๆ เขียนกำกับไว้นะครับ ว่าคุณสมบัติของคนที่จะเอารถที่ยังผ่อนไม่หมดมารีไฟแนนซ์ได้ต้องเป็นใครบ้าง  เช่น 

  • ผู้กู้ต้องมีรถยนต์เป็นของตัวเอง ชื่อเล่มทะเบียนกับชื่อคนกู้ต้องเป็นคนเดียวกัน (ในกรณีที่รถไม่ใช่ชื่อเดียวกับคุณจำเป็นต้อง โอนชื่อรถยนต์ ก่อนนะครับ) 
  • ผู้กู้จะต้องมีรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด รถผ่อนอยู่ (ตามเงื่อนไขขอสินเชื่อ)
  • ผู้กู้จะต้องมีอายุระหว่าง 20-65 ปี (รวมระยะเวลาจ่ายสินเชื่อแล้ว)
  • ผู้กู้จะประกอบอาชีพอะไรก็สามารถทำเรื่องเอารถเข้าไฟแนนซ์ได้ 

ทั้งนี้ แต่ละสถาบันการเงินอาจจะมีเงื่อนไขคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม

รีไฟแนนซ์รถยนต์ เอารถเข้าไฟแนนซ์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง? 

อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้การทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถยนต์ หรือเอารถเข้ารีไฟแนนซ์รถยนต์ คือการเตรียมเอกสารในการกู้สินเชื่อให้พร้อม ถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องเอกสารหรือการดำเนินงาน ก็จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อและได้เงินไวขึ้น และสำหรับการเอารถเข้าไฟแนนซ์ ต้องใช้เอกสาร ดังนี้ 

  • เล่มทะเบียนรถยนต์ ที่เป็นชื่อเดียวกับผู้กู้รีไฟแนนซ์รถยนต์
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ที่จะเอารถเข้าไฟแนนซ์
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่จะเอารถเข้ารีไฟแนนซ์
  • สำเนารายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
  • เอกสารแสดงรายได้ของเจ้าของรถ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน 

ทั้งนี้ แต่ละสถาบันการเงินอาจจะมีเงื่อนไขในการขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม 

รีไฟแนนซ์รถ เอารถเข้าไฟแนนซ์ ได้เงินกี่บาท ได้เงินเท่าไหร่ เหลือเงินกี่บาท?

เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ได้เงินกี่บาท ได้เงินเท่าไหร่ คำตอบก็คือ อยู่ที่การประเมินสภาพรถยนต์ตามเงื่อนไขของสถาบันเงินที่คุณเลือก โดยวิธีคิดคำนวณวงเงินเอารถเข้ารีไฟแนนซ์โดยประมาณมีด้วยกัน 2 วิธี คือ 

วิธีคิดวงเงินส่วนต่างที่เหลือเมื่อเอารถยนต์เข้ารีไฟแนนซ์ด้วยตัวเอง

กู้ซื้อรถยนต์กับสถาบันการเงินในจำนวน 800,000 บาท ถูกคิดดอกเบี้ยค่างวดรถ 4% ต่อปี โดยเลือกผ่อนรถยนต์เป็นจำนวน 60 เดือน (5 ปี) สามารถคิดคำนวณวงเงินรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่จะได้โดยประมาณ  ดังนี้

  • ดอกเบี้ยค่างวดรถยนต์ที่ต้องจ่ายทั้งหมด : 800,000 x 4% x 5 ปี = 160,000 บาท
  • เงินที่ต้องจ่ายคืนธนาคาร (ค่างวดรถยนต์ 5 ปี + ดอกเบี้ย) : 800,000 + 160,000 = 960,000 บาท
  • เงินที่ต้องผ่อนค่างวดรถต่อเดือน 960,000 ÷ 60 = 16,000 บาท หรือปีละ 192,000 บาท
  • ผ่อนรถยนต์ไปแล้ว 36 เดือน (3 ปี) คิดเป็นเงินที่จ่ายค่างวดรถไปคือ = 16,000 x 36 = 576,000 บาท
  • ค่างวดรถที่ยังต้องผ่อนต่อจนกว่าจะครบสัญญาคือ 960,000 – 576,000 = 384,000 บาท 

ทั้งนี้ วงเงินเอารถเข้าไฟแนนซ์ที่จะได้ขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพรถยนต์ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน แต่โดยมากแล้ววงเงินที่ได้จากการรีไฟแนนซ์รถจะสูงกว่ายอดผ่อนรถยนต์ในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเงินไปปิดหนี้รถยนต์ก้อนเก่า และเหลือเงินส่วนต่างไว้ใช้จ่าย สมมติว่า เอารถเข้ารีไฟแนนซ์แล้วประเมินวงเงินได้ 500,000 บาท คุณก็ยังเหลือเงินส่วนต่างอยู่ที่ 116,000 บาทครับ

เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ ได้วงเงินเท่าไหร่ วิธีคิดวงเงินรีไฟแนนซ์

เอารถเข้าไฟแนนซ์ได้วงเงินเท่าไหร่ ลองคำนวณได้ที่เว็บไซต์ CarTrust 

ถ้ารู้สึกว่าวิธีคิดวงเงินเอารถเข้ารีไฟแนนซ์ด้วยตัวเองมันช่างยากเย็นจริงๆ คุณสามารถคำนวณวงเงินโดยประมาณเมื่อกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่เว็บไซต์ ลงไปที่เว็บไซต์ CarTrust  ดังนี้ 

  • รุ่นรถยนต์ 
  • ปีรถยนต์
  • รุ่นย่อยรถยนต์
  • ยอดผ่อนต่อเดือน
  • จำนวนเดือนที่เหลือ

ก็จะพบราคาประเมินในเบื้องต้นทันที แล้วเมื่อกรอกข้อมูลจำนวนเดือนที่เหลือ พร้อมกับยอดผ่อนต่อเดือน เว็บไซต์ CarTrust ก็จะแสดงรายการสินเชื่อสำหรับการเอารถเข้ารีไฟแนนซ์ที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของคุณให้เลือกใช้ พร้อมทั้งยอดเงินคงเหลือเมื่อรีไฟแนนซ์รถแล้ว โดยไม่ต้องไปคิดคำนวณเองให้ปวดหัวอีกต่อไป!

เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ รีไฟแนนซ์รถยนต์ กี่วันได้เงิน ได้เงินเลยไหม

โดยปกติแล้ว สถาบันการเงินที่เปิดให้เอารถเข้าไฟแนนซ์ หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์ มักจะดำเนินการเสร็จภายในระยะเวลา 3-7 วันทำการ แต่การพิจารณาจะเร็วขึ้นมาก ถ้าคุณเตรียมเอกสารในการเอารถเข้าไฟแนนซ์ให้พร้อม เพราะหลายครั้งจะติดขัดเรื่องขอเอกสารเพิ่มเติมนั่นเอง ถ้าผ่านก็ได้เงินวันนั้นเลยครับ 

รีไฟแนนซ์รถยนต์ เอารถเข้าไฟแนนซ์ ที่ไหนดีที่ดอกเบี้ยถูก

อ่านถึงตรงนี้ แล้วคุณสนใจที่จะเอารถเข้ารีไฟแนนซ์ เพราะอยากได้เงินก้อนมาหมุน รู้สึกผ่อนรถต่อไม่ไหวเลยอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ไม่รู้จะ เอารถเข้ารีไฟแนนซ์ที่ไหนดี ดอกเบี้ยถูก ดังนั้น ถ้าคุณอยากเปลี่ยนรถยนต์ให้เป็นเงินก้อน คำตอบเดียวที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ต้องมาที่ CarTrust เพราะ CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ รีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อม ปิดเล่มรถยนต์ ซึ่งที่ต้องเลือกใช้งาน CarTrust ก็เพราะว่า

  • มีเครื่องมือให้คำนวณวงเงินโดยประมาณสำหรับการเอารถเข้ารีไฟแนนซ์
  • มีพันธมิตรสำหรับเอารถเข้าไฟแนนซ์ ทั้งแบบธนาคารและบริษัทสินเชื่อ
  • เลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะยอดผ่อนต่อเดือน ดอกเบี้ยที่ถูก สำหรับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้กับคุณ 
  • ดำเนินการรวดเร็ว ไม่แช่แข็งเคส มีจุดให้บริการทั่วประเทศไทย 
  • รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้ ใช้แค่เล่มทะเบียนรถยนต์

ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะ เอารถเข้าไฟแนนซ์ที่ไหนดี การรีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ CarTrust คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

สรุป

หากคุณเตรียมเอกสารในการเอารถเข้าไฟแนนซ์ให้พร้อม โดยจะใช้เวลาภายใน 3-7 วันทำการเพื่อพิจารณาสินเชื่อ เมื่อผ่านคุณก็จะได้รับเงินในทันทีหลังจากมีการพูดคุยกับสถาบันการเงินที่ไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ โดยการรีไฟแนนซ์รถยนต์นอกจากจะช่วยให้มีเงินก้อนไปใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดค่างวดรถที่ต้องผ่อนต่อเดือน ยืดระยะเวลาในการผ่อนรถ และลดดอกเบี้ยค่างวดรถอีกด้วยครับ

ผ่อนรถไม่ไหว ปล่อยให้รถถูกยึด VS รีไฟแนนซ์ อะไรคุ้มกว่า?

ผ่อนรถไม่ไหว น่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนกำลังเจอ จะทำยังไงดี เพราะก็ดันขอกู้สินเชื่อซื้อรถยนต์มาแล้ว ซึ่งบางคนโดนลดเงินเดือน โดนไล่ออกจากงาน เจ้าของร้านค้าขายของได้กำไรน้อย แถมเศรษฐกิจก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น จึงเกิดความกังวลและกลัวเหลือเกินว่าจะ ส่งค่างวดรถไม่ไหว ค้างค่างวดรถแล้วไฟแนนซ์ยึดรถ เลยเกิดคำถามคาใจขึ้นมาว่า ถ้าผ่อนรถไม่ไหว ปล่อยให้รถถูกยึด จะคุ้มไหม หรือควรเลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์ไปเลยดีกว่ากัน เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดให้กับคุณ CarTrust มีคำตอบมาให้ครับ

ผ่อนรถไม่ไหว ไม่คืนรถ ปล่อยให้รถถูกยึด ดีไหม

ผ่อนรถไม่ไหว ไม่คืนรถ ปล่อยให้รถถูกยึดดีไหม จะคุ้มค่าหรือเปล่า?

CarTrust เข้าใจมากๆ ที่ ผ่อนรถไม่ไหวไม่ยอมคืนรถ เพราะกว่าจะทำเรื่องกู้สินเชื่อซื้อรถยนต์ให้ผ่านใช้เวลานานพอสมควร เลยขอยื้อรถยนต์ไว้จนกว่าจะถูกไฟแนนซ์ยึดรถ เพราะคิดไปว่าเมื่อบริษัทไฟแนนซ์ขายรถทอดตลาดได้ ก็ถือเป็นการปิดหนี้รถยนต์แล้วจบกัน แต่ความจริงมันยังไม่จบครับ เพราะราคารถยนต์ทอดตลาดต่ำกว่าราคารถยนต์จริง เมื่อโดนบริษัทไฟแนนซ์ยึดรถไป เลยตามมาด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ คือ

  • ค่าติดตามทวงถามหนี้หลังจากโดนยึดรถ
  • ค่าครอบครองรถยนต์ในขณะที่ขายรถทอดตลาด
  • ค่าขาดประโยชน์รถยนต์ 

ดังนั้น การผ่อนรถไม่ไหว ไม่คืนรถ แล้วปล่อยให้บริษัทไฟแนนซ์ยึดรถไป ยังไงก็ไม่คุ้มครับ

รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่รับปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์

เรื่องที่ต้องรู้ของคน ผ่อนรถต่อไม่ไหว แล้วอยาก รีไฟแนนซ์รถยนต์ 

ถ้าผ่อนรถไม่ไหว สิ่งที่คุณต้องทำคือ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ หรือ การย้ายไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่อย่างนั้นถ้าดันทุรังผ่อนต่อไปอย่างนี้มีโอกาสกลายเป็นหนี้รถยนต์ก้อนโต ที่อาจส่งผลร้ายให้ติดเครดิตบูโรได้ในอนาคต ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ไหนดี ผ่อนรถมากี่ปีถึงจะรีไฟแนนซ์ได้ CarTrust จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ 

ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด คืออะไร? 

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ วิธีกู้เงินก้อนใหม่ไปปิดหนี้ก้อนเก่า ด้วยการใช้รถยนต์ที่ยังผ่อนชำระอยู่มาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินต่างๆ เหมาะสำหรับคนที่ผ่อนรถยนต์ต่อไม่ไหว แต่ไม่อยากเปลี่ยนสัญญารถ หรือผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากปล่อยให้รถถูกยึดไปแล้วต้องตามจ่ายหนี้ แถมยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มด้วย เช่น

  • ยืดเวลาในการผ่อนชำระค่างวดรถให้นานขึ้น 
  • ดอกเบี้ยรถยนต์ถูกปรับลดลง 
  • ยอดผ่อนต่อเดือนถูกปรับลดลง 
  • ได้เงินส่วนต่าง

เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินของคุณคล่องขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น ไม่จำเป็นเลยที่เมื่อผ่อนรถไม่ไหว ปล่อยให้รถถูกยึดไป เพราะมีแต่เสียกับเสียนะครับ เอารถเข้าไฟแนนซ์ จะเป็นวิธีที่ดีมากกว่า

ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่ไหนดี

ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่ไหนดี?​

สำหรับคนที่ผ่อนรถไม่ไหว แล้วอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เพราะต้องการเปลี่ยนดอกเบี้ยรถ ปรับยอดผ่อน และยืดเวลาให้นานขึ้น สามารถเลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ 2 วิธี คือ 

ผ่อนรถต่อไปไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเก่า

ผ่อนรถต่อไม่ไหว จ่ายค่างวดรถต่อไม่ไหว อยากรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเก่าก็ทำได้ครับ โดยข้อดีคือคุณไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรเลย เพราะสถาบันการเงินเก่ามีประวัติต่างๆ ของคุณไว้อยู่แล้วเพราะถือเป็นลูกค้าเก่า อีกทั้งอาจจะมีโปรโมชันอื่นๆ มาเพิ่มเติมให้ด้วย ในฐานะที่เป็นลูกค้าเก่าประวัติดี 

ผ่อนรถไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารใหม่

ผ่อนรถต่อไปไม่ไหว กลัวจะต้องค้างค่างวดรถ อยากรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารใหม่ก็ทำได้ โดยข้อดีคือคุณมีโอกาสได้วงเงินที่สูงกว่าเดิม และได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่ก็แลกกับการเตรียมเอกสารเอารถเข้าไฟแนนซ์  เสียค่าตรวจสภาพรถยนต์ ค่าโอนเล่มรถยนต์ ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น

ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่ไหว กับธนาคารใหม่ หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่ไหวกับธนาคารเดิม เพราะทั้ง 2 วิธีต่างช่วยแบ่งเบาภาระค่างวดรถ ดอกเบี้ยรถให้กับคุณ ซึ่งบางทีถ้าลองคิดคำนวณดูดีๆ จะรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่ไหวที่เก่าหรือที่ใหม่ก็ไม่ต่างกันมากเลยครับ 

ผ่อนรถมา 1 ปี แต่ ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ได้ไหม? 

ในปีที่แล้วเพิ่งถอยรถยนต์คันใหม่มา แต่ตอนนี้หมุนเงินไม่ทัน จนทำให้ต้องกลายเป็นคนผ่อนรถไม่ไหว เลยอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนไม่หมด เพื่อจะได้กู้เงินก้อนใหม่มาปิดหนี้รถยนต์ก้อนเก่าให้จบไปแล้วเริ่มผ่อนหนี้รถยนต์ก้อนใหม่ แล้วถ้าผ่อนรถมา 1 ปี แล้วจะ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ได้ไหม ซึ่งทำได้ครับ

โดยปกติแล้ว การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด มีเงื่อนไขว่า รถยนต์คันนั้นต้องมียอดผ่อนมาแล้วมากกว่า 50% หรือครึ่งหนึ่งของยอดทั้งหมด ซึ่งคำว่า 50% ไม่ได้หมายความว่าเป็นระยะงวดทั้งหมดที่ผ่อน แต่เป็นยอดเงินต้นที่ผ่อนมาแล้ว ต่อให้ผ่อนรถแค่ 1 ปี แต่เงินต้นลดลงไป 50% ก็รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้

โดยมากแล้วในกรณีที่ผ่อนรถมาแค่ 1-2 ปีแล้วรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ คือ ในตอนแรกเลือกผ่อนรถยนต์ระยะสั้นแล้วจ่ายเงินดาวน์เยอะ ยอดเงินต้นเลยเกิน 50% ภายใน 1-2 ปีแรกนั่นเอง ดังนั้น ผ่อนรถมาแค่ 1 ปีแต่ถ้ามียอดเงินต้นเกินกว่า 50% ก็รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ผ่อนต่อไม่ไหวได้เลยครับ!

ผ่อนรถต่อไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่รับปิดบัญชีรถยนต์ ที่ไหนดี

ผ่อนรถไม่ไหว รีไฟแนนซ์รถยนต์แล้วปิดเล่มรถยนต์ ที่ไหนดี? 

รีไฟแนนซ์รถยนต์แล้วปิดเล่มรถยนต์ คือ การนำรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด มารีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงิน พร้อมกับปิดเล่มรถยนต์ไปคู่กัน โดยที่คุณจะได้เงินก้อนเก่าไปปิดหนี้ก้อนเก่า และยังได้เงินก้อนส่วนต่างมาใช้จ่ายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะทำธุรกิจ จ่ายค่ารักษาพยาบาล อยากได้เงินด่วนเงินก้อน เป็นต้น  โดย CarTrust รับปิดไฟแนนซ์รถยนต์ นะครับ หากคุณรู้สึกว่าเริ่ม ผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่อยากเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถ ไม่อยากปล่อยให้ถูกยึดรถไปแล้วมาตามจ่ายหนี้ที่เหลือในทีหลัง วิธีนี้ตอบโจทย์ที่สุดแล้วครับ 

สรุป

สรุปได้ว่า ผ่อนรถไม่ไหว ปล่อยให้รถถูกยึด ไม่คุ้มค่าเท่า รีไฟแนนซ์ที่ยังผ่อนไม่หมด เพราะวิธีผ่อนรถไม่ไหว แล้วปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไป แม้จะปิดหนี้รถยนต์ได้จริง แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาให้คุณต้องชดใช้อีกด้วย จะดีกว่ามากๆ หากเลือกบริษัท ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ซึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ CarTrust ที่จะช่วยรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อม ปิดไฟแนนซ์ หรือ ปิดเล่มรถยนต์ เพราะนอกจากจะทำให้คุณไม่ต้องตามจ่ายหนี้ให้วุ่นวาย เพราะ ปิดไฟแนนซ์รถยนต์ ไปแล้ว ละยัง มีเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย